เรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมากจริงๆ เมื่อผู้ประกาศข่าวต้องอ่านรายงานการเสียชีวิตของลูกสาวตนเอง โดยที่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยสักหยด เพื่อตีแผ่ปัญหาการใช้ยาเกินขนาดในวัยรุ่น
แองเจล่า เคนเน็ค ผู้ประกาศข่าวสาวที่ต้องอ่านรายงานการเสียชีวิตของลูกสาวตนเอง ได้รับคำชื่นชมในเรื่องความแข็งแกร่งของจิตใจเธอ ที่กล้าหาญหยิบยกเรื่องราวของลูกสาวมาเล่าเป็นสกู๊ปข่าวพิเศษในรายการ เพื่อตีแผ่ปัญหาการใช้ยาเกินขนาดในหมู่วัยรุ่น โดยในรายการถ่ายทอดสดข่าว แองเจล่าหยิบยกประเด็นการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จนถ้าหากใช้ในปริมาณมาก จะทำให้เกิดพิษในร่างกาย ซึ่งเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา แองเจล่าต้องสูญเสียเอมิลี่ กรอธ ลูกสาววัย 21 ปีของเธอ เนื่องจากใช้ยาแก้ปวดเฟนทานิลเกินขนาดจนเสียชีวิต
แองเจล่ายอมรับว่าการแพร่ระบาดของยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์มีมาให้เธอรายงานข่าวอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมันมาเกิดขึ้นเป็นการส่วนตัวกับเธอ เธอจึงขอใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นเพื่อกระตุ้นให้ทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง "การแพร่ระบาดของโอปิออยด์ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากกับคนในครอบครัวของฉัน การสูญเสียลูกสาวตัวเองในครั้งนี้ มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบของฉัน มันกลับด้านทันที ตอนเกิดเรื่องฉันรับโทรศัพท์จากพ่อของเธอ บอกให้ฉันรีบมาที่บ้านเดี๋ยวนี้ ฉันรู้ว่าลูกสาวฉันติดยา ฉันพยายามทำความเข้าใจและคอยหาทางช่วยเหลือมาตลอด ให้กำลังใจ คอยตักเตือน เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันพอจะทำได้"
แองเจล่ากล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวเธอ ไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานใดเลย ซึ่งเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ก็หวังไว้ว่า การนำเสนอสกู๊ปข่าวเรื่องลูกสาวเธอในครั้งนี้ จะเป็นตัวช่วยให้ทุกภาคส่วนตื่นตัวกับการแพร่ระบาดของโอปิออยด์มากขึ้น ทั้งนี้เฟนทานิลเป็นยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ทางคณะกรรมการอาหารและยาของไทยบรรจุให้ยานี้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยจัดอยู่ในหมวดยาเสพติดให้โทษประเภท 2 สถานพยาบาลต้องมีใบอนุญาตในการใช้และจำหน่าย ประชาชนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อจากร้านขายยาได้ ผู้ที่ผลิต นำเข้า ส่งออกยาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีใบอนุญาตนำผ่าน ต้องเสียค่าปรับและระวางโทษจำคุก
ขอบคุณข้อมูลจาก: Mirror, @AngelaKennecke, pobpad