เกิดเหตุสลด หนุ่มเมาเหล้าซิ่งรถชนร้านเฟอร์นิเจอร์สาขาใหญ่จังหวัดสงขรา ไฟไหม้ลุงท่วมร้านพังเสียหาย รวมเป็นเงินกว่า 80 ล้าน โดยเว็บไซต์ workpointnews.com รายงานว่า วันที่ 18 ก.พ. 2562 เวลา 03.00 น. ตำรวจ สภ.คอหงส์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์ บริเวณริมถนนกาญจนวนวนิช เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ จ.สงขลา จนเกิดไฟลุกไหม้ จึงรีบประสานรถดับเพลิงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ จุดเกิดเหตุเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่
โดยต้นเพลิงเกิดจากรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน ขท 1452 สงขลา เสียหลักพุ่งชนเข้าไปภายในร้านเฟอร์นิเจอร์ จนเกิดไฟลุกไหม้รถขึ้นทั้งคัน และเปลวไฟลุกลามไปตัวอาคารและเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในร้านอย่างรวดเร็วและลุกลามหมดทั้งร้านอย่างรวดเร็ว ความร้อนยังทำให้โครงสร้างอาคารพังลงมา
เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับไฟนานเกือบ 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แต่ก็ทำให้ร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งร้านและสินค้าที่อยู่ภายในร้านเสียหายทั้งหมด รวมทั้งรถเก๋งคันที่พุ่งชนก็เสียหายหมดทั้งคัน นอกจากนี้ความร้อนของไฟยังทำให้บริษัทเหล็กอยู่ติดกับร้านขายเฟอร์นิเจอร์ได้รับความเสียหายบริเวณกำแพง
ภายหลังทราบชื่อคนขับรถเก๋งคือ นายพฤหัส อายุ 26 ปี อยู่ในอาการมึนเมา ช่วงเกิดเหตุทหารประจำด่านตรวจ ด้านความมั่นคงที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุช่วยดึงร่างออกมาได้ทัน ก่อนไฟจะลุกไหม้ และนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะที่ภายในร้านเฟอร์นิเจอร์ไม่มีใครอยู่
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถเก๋งคันนี้ได้ขับมาด้วยความเร็ว และเสียหลักพุ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาทันที เจ้าหน้าที่ทหารประจำจุดตรวจด่านความมั่นคงเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้าไปช่วยคนขับออกมาได้ทันในสภาพที่เมาแทบไม่ได้สติ
ภายหลังทราบว่าร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้เป็นของ นายอัชอารีย์ วันดับดุลเลาะฮ์ อายุ 50 ปี โดยประมาณการณ์ค่าเสียหายราว 80 ล้านบาท และทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งรถเก๋งที่พุ่งชนไม่มีประกันทั้งคู่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา ดำเนินคดี นายพฤหัสคนขับรถเก๋ง 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา และจะเรียกตัวมาแจ้งข้อหารวมทั้งสอบสวนเพิ่มเติมในครั้งต่อไป เนื่องจากขณะนี้นายพฤหัสยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง ที่เกิดขึ้นเพราะการเมาแล้วขับ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับหลายๆคนแล้วกัน การเมาแล้วขับนั้นนอกจากจาก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเราแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นทั้งร่างกายและทรัพย์สินอีกด้วย
ภาพและข้อมูลจาก workpointnews.com
