เว็บไซต์ ejan รายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ คือเบาะแสสำคัญทำให้ชุดสืบสวนรู้ว่าแม่ใจยักษ์ทิ้งลูกน้อยในชักโครกคือหมอนวดแผนโบราณทำงานอยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจ เป็นความโชคดีของเด็กแรกเกิดเพศหญิงที่ถูกทิ้งในชักโครกภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงให ม่ ไม่เสียชีวิตหลังจากที่แม่ใจยักษ์คลอดทิ้งไว้แล้วปิดฝาชักโครกและปิดประตูเหมือนต้องการที่จะให้เสียชีวิต แต่เคราะห์ดีที่พลเมืองดีได้ยินเสียงร้องจึงช่วยเหลือรอดราวปาฏิหารย์

แม่ใจยักษ์คนนี้คือใครกล้าทิ้งเด็กทารกไว้แบบนี้ในสถานีตำรวจซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือคำถามที่ตำรวจตั้งข้อสงสัย ทำให้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก. และ พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ์ รอง ผกก.สส.สภ. เมืองเชียงใหม่ เร่งหาคำตอบโดยให้ชุดสืบสวน หาเบาะแสของแม่ใจยักษ์

ชุดสืบสวนคำนวณเวลาย้อนหลังจากเวลาที่พบเด็กแรกเกิดพบว่าช่วงเวลาประมาณ 22.00 ของวันที่ 24 ก.พ.2562 พบผู้ต้องสงสัยเป็นสุภาพ สตรีเดินมาที่ด้านหลังของสถานีตำรวจแล้วเดินขึ้นไปที่ห้องน้ำชั้น 2 ซึ่งติดกับห้องทำงานฝ่ายสืบสวน แต่เมื่อชุดสืบสว นดูภาพจากกล้องวงจรปิ ดซ้ำแล้วซ้ำเล่ารู้สึกคุ้นหน้าตาของสุภาพสตรีคนนี้คล้ายหมอนวดแผน โบราณทำงานอยู่ละแวก สถานีตำรวจ อีกทั้งชุดที่สุภาพสตรีคนนี้สวมใส่คล้ายกับเสื้อผ้าที่ร้านนว ดแผนโบราณแห่งหนึ่ง

เจ้าของร้านนวดแผนโบราณให้ความร่วมมือกับชุดสืบสวนโดยให้ข้อมูลว่าสุภาพสตรีต้องสงสัยอาจเป็น น.ส.บุษบา หรือไก่ สมพู อายุ 44 ปี แต่ไม่ได้มาทำงานแต่โทรศัพท์มือถือติดต่อมาว่าขอลางานรู้สึกเพลียและป่วย

ทันทีที่ได้ข้อมูลชุดสืบสวนเดินทางไปที่บ้านพักของ น.ส.บุษบา เพื่อสอบถามทันทีที่รู้ว่าเป็นตำรวจจึงยอมรับว่าเป็นแม่ที่ทิ้งเด็กแรกเกิดในชักโครกบนสถานีตำรวจ และขอมอบตัว

พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้น น.ส.บุษบา อ้างว่าตั้งครรภ์และรู้กำหนดคลอดแล้ว วันเกิดเหตุช่วงเวลา 22.00 เกิดปวดท้องคลอดครั้งแรก จึงได้ไปเข้าห้องน้ำที่ตึกหน้าก่อน แต่เด็กยังไม่ออกมา จึงกลับไปทำงานที่ร้านนวดต่อ จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงเริ่มปวดท้องอีก จึงเปลี่ยนไปเข้าห้องน้ำที่ตึกห้องทำงานฝ่ายสืบสวนที่อยู่ด้านหลังแทนแล้วเด็กคลอดออกมาลงชักโครก หลังคลอดเสร็จได้เช็ดเลือดแล้วปิดฝาชักโครก และปิดประตูก่อนจะกลับไปทำงานร้านนวดตามปกติและนวดให้ลูกอีกค้า 1 รายจนเสร็จ ก่อนจะกลับบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเกรงว่าจะมีคนสงสัย อีกทั้งอ้างว่า

ตัดสินใจทิ้งทารกแรกเกิดเพราะครอบครัวขัดสน สามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ต้องทำงานเลี้ยงดูครอบครัวเพียงคนเดียว ส่วนพ่อเด็กก็ไม่รับผิดชอบเพราะมีครอบครัวแล้วเช่นกัน หากคลอดออกมาก็จะเป็นภาระ จึงตัดสินใจทิ้งเด็กหลังคลอด

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา "ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กพ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแล " มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นได้ปล่อยตัวนางสาวบุษบาไปชั่วคราว และหลังสรุปสำนวนเสร็จ จะนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ejan