นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ย้ำจุดยืน ออกมากดดัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังเกิดข่าวกรณีอื้อฉาวคนสนิท "ธรรมนัส" กักตุนหน้ากาก 200 ล้านชิ้น
11 มี.ค.ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจากกรณีที่มีการเรียกร้องให้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แสดงความรับผิดชอบจากกรณีปัญหาหน้ากากอนามัยว่า "คนในครอบครัวก็คุยกันว่ามีเหตุผลอะไร เมื่อคืนได้มีโอกาสทานข้าวในกลุ่มฝ่ายบู๊ที่ทำงานช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงนัดกันล่วงหน้ากันเฉยๆ" " ณ วันนี้ ผมใช้สิทธิความเป็นประชาชนและส.ส.ที่ประชาชนบอกให้ผมมาพูดเรื่องนี้ครับ" นายสิระ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าส.ส.ในพรรคมีแนวร่วมมากน้อยแค่ไหนกับการให้ร้อยเอกธรรมนัสลาออก นายสิระ กล่าวว่า "ความคิดก็ยังคิดว่าท่านต้องใช้ดุลพินิจของท่าน เราไม่มีสิทธิไปบังคับหรือปลดท่านออก อยู่ที่การตัดสินใจของท่านเอง ส่วนส.ส.ในพรรคก็ลงพื้นที่กันหมด ในไลน์กลุ่มไม่มีใครพูดถึง"
เมื่อนักข่าวถามว่าถ้ากรณีเกิดขึ้นกับตัวเองจะลาออกหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า "เป็นผมเหรอครับ การลาออกเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ผมออก ถ้าสมมติว่าพิสูจน์แล้วขาวสะอาดทางผู้ใหญ่อาจจะพิจารณากลับมาเหมือนเดิม ถ้าเป็นผม ผมลาออกนะครับ ส่วนสิทธิของใครใครจะคิดอย่างไรเป็นสิทธิส่วนบุคคล"
เมื่อถามถึงบทบาทการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อเรื่องนี้ นายสิระ กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองสงสัยว่าคลิปที่ออกมาทำขึ้นมาเพื่อล้อเล่น อยากจะถามว่าหน้ากากอยู่ไหน ถ้ามีการจำหน่ายจะจำหน่ายไปที่ไหน มีการเสียภาษีหรือไม่ ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในฐานะผู้ติดตามรัฐมนตรีมีพฤติกรรมอย่างไรก็ต้องตรวจสอบ
นักข่าวถามอีกครั้งว่า เคยเห็นพฤติกรรมของผู้ติดตามของร้อยเอกธรรมนัสบ้างหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า "อย่าให้เหลาเลย มันพูดไม่ได้ในที่สาธารณะ พูดไม่ได้ครับ ผมโดนไป 3 คดี" นายสิระ กล่าวว่า คนที่ให้ข้อมูลตนเองเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากมีข้อมูลจริง แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับคนสนิทของร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่ ขอเอาไว้ก่อน เพราะคนให้ข้อมูลตนเองกลัวจะเดือดร้อน
นักข่าวถามต่อว่าจะนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมาธิการฯหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า "เรื่องนี้จะต้องขอสภาฯเอากล้องวงจรปิดมาด้วยว่ามีใครเข้าออกอย่างไร เห็นเขาว่ามาอย่างนี้ แต่ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่และมีการเข้าออกอย่างไร"
นายสิระ กล่าวอีกว่า ยอมรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้โทรศัพท์มาหาบอกให้ทานข้าวมากๆ นอกจากนี้ พวกที่คนท้าตนเองให้ลาออกจากการไปแจกหน้ากากไม่มีคุณภาพว่า ผมอยากบอกว่าเงินก็เป็นเงินของผม มีใจบริสุทธิ์ใช้เงินภาษีประชาชนไปดูแลประชาชน
"ถามกลับไปยังคุณไผ่ว่าวิกฤตของประชาชน คุณเป็นผู้แทนราษฎรเหมือนผม คุณก็รับเงินเดือนเหมือนผม คุณทำอะไรให้กับประชาชนบ้างหรือยังจากกรณีไวรัสโควิด ผมยังคิดอยากจะทำทุกอย่าง คุณไม่ต้องควักเงินก็ได้ คุณไปตรวจสิว่าหน้ากากขาดแคลนเพราะอะไร แค่นี้คุณก็ทำให้ประเทศแล้ว คุณเป็นผู้แทนราษฎรเหมือนผม ไม่มีอะไรครับเคลียร์กันแล้ว ต่างคนต่างลงพื้นที่" นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวส่งท้ายว่า ส่วนประเด็นเรื่องผู้ติดตามนั้นการแต่งตั้งผู้ติดตามนั้นต้องถามว่าต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าบอกว่าไม่รู้จักกันแล้วมาแต่งตั้งยิ่งเจ็บ เพราะตัวเองเป็นคนเซ็นออกบัตรให้เอง "คนในบ้านเรา จะเปรียบเทียบก็เกินไปนะที่ไปกัดชาวบ้านเขา เจ้าของต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ คนอยู่ในบ้านไปกัดคนอื่นก็ต้องรับผิดชอบ อะไรที่อยู่ในบ้านและสังกัดเราก็ต้องรับผิดชอบ จะมาบอกว่าไม่รู้จักนั้นมันหนักกว่าอีก โอเคนะ อย่าไปให้ดุไปกว่านี้เดี๋ยวจะไม่สุภาพ" นายสิระ กล่าว
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เนชั่น