นายชวนหลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวชี้แจงต่อสมาชิกในที่ประชุมรัฐสภาที่มีนัดพิจารณาเรื่องด่วนญัตติเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมเข้าชื่อเสนอ 5 ฉบับ และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเข้าชื่อเสนอ 1 ฉบับ จำนวน 6 ฉบับ
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ทักท้วงถึงญัตติที่ตนเสนอขอให้รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเกี่ยวกับการเข้าชื่อซ้ำกันของส.ส.ฝ่ายค้านในญัตติเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวน 4 ฉบับ ซึ่งอาจขัดกฎหมาย
ท้ายที่สุดแล้วญัตติของ นายไพบูลย์ ไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของรัฐสภา ว่าฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาได้ประชุมหารือแล้วเสนอความเห็นกลับมาว่า ญัตติและการเสนอร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับดังกล่าว หากเป็นการลงชื่อซ้ำในฉบับเดียวกันจะกระทำมิได้
แต่กรณีที่ นายไพบูลย์ ทักท้วงเกี่ยวกับการลงชื่อซ้ำในร่างกฎหมายที่เสนอคนละฉบับที่แต่ละฉบับมีหลักการและเนื้อหาเป็นคนละเรื่องกัน ถือเป็นกรณีซ้ำที่ไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้ประกอบกับการศึกษาถึงการพิจารณากฎหมายที่ผ่านมาแล้วเคยมีกรณีการเสนอกฎหมายซ้ำในลักษณะดังกล่าว ไม่เคยมีปัญหาการตีความ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 156 บัญญัติให้การประชุมร่วมกันของรัฐสภาต้องอยู่ใน 165 เรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งไม่สอดคล้องกับญัตติที่ นายไพบูลย์ เสนอ จึงถือว่าญัตติดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม ภายในที่ประชุมสภานั้น นายไพบูลย์ ได้ลุกขึ้นแย้งว่า ความเห็นดังกล่าวนั้นเป็นความเห็นที่ทางฝ่ายกฎหมายที่ไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่า ญัตติแก้รัฐธรรมนูญฝ่ายค้านขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยเท่านั้น แต่ทางด้านนายชวนก็ยังคงไม่บรรจุญัตตินายไพบูลย์ เช่นเดิม
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก วิทยุโทรทัศน์รัฐสภา
