สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งก่อนหน้านั้น ทางตำรวจประกาศแจ้งผู้ชุมนุม ว่าขอโทษสำหรับการฉีดน้ำ อ้างเป็นความผิดพลาด และจะไม่มีการฉีดน้ำอีก ล่าสุด ออกมาแถลงการเพิ่ม ฉีดน้ำเพื่อเตือนให้ ม็อบ ยุติฝ่าแนวกั้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา 8 พ.ย. 63 ผู้ชุมนุมได้ดันรถเมล์ที่ขวางออกจากเส้นทาง ก่อนเจอแนวลวดหนามและรถตู้ของตำรวจอีกชั้น รวมถึงเผชิญหน้ากับรถฉีดน้ำแรงดันสูงที่ตำรวจเคยใช้ในวันที่ 16 ต.ค.63 ที่ผ่านมาด้วย โดยตำรวจยังประกาศอย่างต่อเนื่องห้ามเข้ามาพื้นที่นี้โดยเด็ดขาด พร้อมให้ส่งตัวแทนมาพูดคุยเจรจากัน
เวลา18.43 น. ทางตำรวจประกาศแจ้งผู้ชุมนุม ว่าขอโทษสำหรับการฉีดน้ำ อ้างเป็นความผิดพลาด และจะไม่มีการฉีดน้ำอีกแต่ขอให้แกนนำส่งตัวแทนมาพูดคุยกันพร้อมขอให้มวลชนหยุดยิงเลเซอร์ก่อน
ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ได้แถลงถึงเหตุการณ์ ฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมว่า การปฏิบัติดังกล่าวของตำรวจเกิดขึ้นเนื่องจาก ม็อบ คณะราษฎร เดินเข้ามาถึงแนวกั้นที่ 2 บริเวณหน้าศาลฎีกา ซึ่งเป็นแนวกั้นรั้วหนาม เมื่อตำรวจพิจารณาเห็นว่า ได้มีการแจ้งให้กลุ่ม ม็อบ ยุติการเคลื่อนตัว และยุติการชุมนุม แต่ไม่เป็นผล กลุ่ม ม็อบ คณะราษฎรยังคงรื้อแนวกั้นของตำรวจ
ตำรวจจึงจำเป็นต้องฉีดน้ำ เพื่อเตือน โดยการฉีดให้เป็นละอองน้ำ ไม่ได้ตั้งใจให้โดนกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากสถานที่ตรงนั้น มีสถานที่สำคัญ ตำรวจจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมกับยืนยันว่า น้ำที่ฉีดออกไปเป็นน้ำเปล่า
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน