กกต.มีมติสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีการเคลื่อนไหว คณะก้าวหน้า ว่าเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองซึ่งมีความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ในนามคณะก้าวหน้า โดนอีกคดี หลังจากที่ประชุม กกต.มีมติสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีการเคลื่อนไหว ที่ส่งและช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ว่าเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองซึ่งมีความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่กำหนดว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง
ทั้งนี้อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงาน กกต. รวบรวมเสนอแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักพอสมควรที่ กกต.จะดำเนินการต่อไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสอบสวนและไต่สวนได้
นอกจากนั้นหากการสืบสวน กกต.พบว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งไม่เพียงต้องมีการดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้ง 3 แต่ยังอาจมีผลไปถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. ที่หากผลการสืบสวนพาดพิงไปว่านำไปสู่การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมก็สามารถนำผลการสืบสวนไปดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นได้เช่น กกต.สั่งระงับสิทธิสมัครของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว หรือใบส้ม รวมถึงการสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือ ใบเหลืองได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก EasyYukhon