สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เซ็นรับรองร่างพระราชบัญญัติบำนาญแห่งชาติ ฉบับที่ประชาชนกว่าหมื่นสี่พันคนเข้ารายชื่อเสนอ กลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ จำนวน 50 คน นำโดย นายนิมิตร์ เทียนอุดม ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่อง ขอให้ทบทวนการพิจารณารับรองร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลังพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสการรับรองร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติฉบับดังกล่าว
ทั้งนี้ทางทีมข่าว EasyNews ได้สัมภาษณ์ นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งได้ความว่า จุดประสงค์หลักของการคเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ทุกคนมีหลักประกันทางรายได้ ซึ่งเป็นเหมือนกับตาข่ายที่รองรับเพื่อให้คนแต่ละคนที่อายุ 60 ปี มีรายได้เพียงพอที่จะยังชีพ หรือประมาณเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนตามเส้นความยากจนในประเทศไทย
ทั้งนี้หลังจากที่ทราบข่าวว่า นายกฯ ไม่เซ็บรับรองร่าง พรบ.ฉบับนี้ตนและเครือข่ายก็รู้สึกว่า.. ทำไมประเทศไทยไม่มีนายกฯที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีกว่านี้ เพราะตอนนี้เราได้เห็นทั้งภาวะเศรษฐกิจและชีวิตผู้คนทั่วประเทศว่าลำบาก เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 แล้วต้องมาออกมาตรการช่วยเหลือให้คนมาลงทะเบียน แต่ร่างกฏหมายที่เสนอไปนั้นเป็นกฏหมายเบื้องต้นที่จะมาแก้วิกฤตภาวะเศรษฐกิจของผู้คนในประเทศ
เพราะหากว่ามีหลักประกันที่เป็นรายได้ ให้กับผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอเป็นเงินเดือน ทุกคนรู้เลยว่าแต่ละเดือนจะมีเงินตรงนี้เข้ามาช่วยและสามารถนำไปบริหารชีวิตจัดการดูแลลูกหลาน ซึ่งบางคนอาจต้องส่งเงินให้พ่อให้แม่แต่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถที่จะส่งเงินให้ได้ก็ไม่ต้องกังวลว่าพ่อแม่จะอกตายเพราะยังมีเงินตรงนี้ช่วยรองรับอยู่ ซึ่งตนคิดว่าร่างกฏหมายนี้จะช่วยคลี่คลายปัญหาและให้คนเข้าถึงหลักประกันรายได้ในจุดนี้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon