การประชุมสภา ผู้แทนราษฎร วันอังคารที่ 16 ก.พ. 64 ครั้งที่ 23 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันแรกฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างก็มีการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายในวันนี้เป็นอย่างมาก ด้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ชี้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นได้เพียง “รัฐบาลปรสิต” ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศและกลืนกินความฝันของประชาชน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ทางด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ,นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ลุกขึ้นหารือถ้อยคำในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มีถ้อยคำเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการเมืองทันที
โดยเมื่อเข้าสู่วาระ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้อ่านญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนพฤติการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทันทีที่นายสมพงษ์อ่านมาถึงคำว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ในญัตติ นายไพบูลย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงทันที แต่ประธานได้วินิจฉัยว่าให้นายสมพงษ์อ่านต่อ เนื่องจากยังไม่มีคำใดที่นอกเหนือไปจากญัตติที่ถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ
ทั้งนี้มีช่วงหนึ่งของการอภิปราย ทางด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า อยากรู้จริงๆว่าในใจพลเอกประยุทธ์รู้สึกอย่างไร สะเทือนใจไปด้วยหรือไม่ ประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบของพลเอกประยุทธ์ทุกข์ยากเช่นนี้ เขานอนหลับลงในแต่ละคืนได้อย่างไร เขายังยิ้มแย้มสำเริงสำราญได้อย่างไร พลเอกประยุทธ์ไม่เคยทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้เมื่อเกือบ 7 ปีที่แล้ว ว่าจะคืนความสุขมาให้ประชาชน แทนที่จะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เขากลับเอาตนเองเป็นศูนย์กลาง
แทนที่จะคิดเก่ง ทำเก่ง ดังเช่นที่เขาเคยโอ้อวดว่า การบริหารประเทศไม่เห็นยากเลย ลับบริหารประเทศแบบคิดไป ทำไป ไม่มีการวางแผน ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม กลับไปกลับมา และโยนความผิดให้ประชาชน ทำให้เมื่อเผชิญวิกฤตอย่างโรคโควิด -19 ประชาชนจึงทุกข์แสนสาหัส ธุรกิจใหญ่น้อยจึงทยอยล้มลง แม้ธุรกิจที่ยืนหยัดต้านทุกวิกฤตมาได้หลายสิบปี ก็ต้องปิดกิจการในยุคของพลเอกประยุทธ์
พลเอกประยุทธ์ ลืมไปว่า ประชาชน 67 ล้านคนจ่ายเงินเดือนให้เขามาทำงาน เพื่อทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยประชาชน มากกว่าห่วงการรักษาอำนาจของตนเอง ประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรี ที่ทำสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่านายกรัฐมนตรีที่สนใจแต่ความนิยมในโพลที่ลิ่วล้อบริวารเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา พลเอกประยุทธ์ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่สามารถรวมพลังผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ พลเอกประยุทธ์ได้แต่อวดอ้างไปวันๆ ว่า ตนซื่อสัตย์ แต่กลับนิ่งดูดาย วางเฉยให้พวกพ้องและบริวารทุจริตฉ้อฉล
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จึงเป็นได้เพียง “รัฐบาลปรสิต” ที่กัดกร่อนอนาคตของประเทศและกลืนกินความฝันของประชาชน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน วันนี้เรามาประชุมร่วมกันในที่นี้ เพื่อร่วมกันยืนยันให้ประชาชนได้ประจักษ์ว่า การเมืองในระบบรัฐสภา ยังเป็นที่พึ่งหวังให้กับประชาชนได้ ดังนั้น เราต้องร่วมสร้าง “การเมืองแห่งความหวัง” เราจะประกาศศักดิ์ศรีของนักการเมืองที่รักประเทศชาติ รักประชาชน ว่าพร้อมจะทำหน้าที่อย่างองอาจ ไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจอยุติธรรม และไม่หวั่นไหวต่อผลประโยชน์ใดๆ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะอภิปรายคนแล้วคนเล่าไม่หยุดยั้ง เพื่อแสดงหลักฐานอย่างแจ้งชัดว่า เราไม่อาจยินยอมให้พลเอกประยุทธ์ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป แล้วฉุดรั้งให้ชีวิตประชาชน จมดิ่งสู่ความทุกข์ทนยิ่ง กว่านี้อีก เราเชื่อมั่นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะเป็นแสงแห่งความหวังที่ส่องสว่างไปทุกแห่งหน เพื่อไล่ความมืดมนที่พลเอกประยุทธ์สร้างไว้มาเกือบ 7 ปี และเพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า จากเหนือจรดใต้ เราต้องมีความหวังอยู่เสมอ เพราะจุดจบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์กำลังมาถึงในไม่ช้านี้
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon