สืบเนื่องจาก การประชุมสภา ผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ วันอังคารที่ 16 ก.พ. 64 ครั้งที่ 23 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ด้าน อมรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อัดนายกฯ นายกฯ ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากร หนีภาษี มีโทษจำคุก
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ข้อกล่าวหาที่ตนต้องอภิปราย คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทำผิดกฎหมายประมวลรัษฎากร หนีภาษี มีโทษจำคุก โดยการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 63 นั้น เป็นการวินิจฉัยเฉพาะประเด็นการขาดคุณสมบัติจากตำแหน่งนายกฯเท่านั้น แต่เรามีศาลอยู่หลายศาล ความผิดในประมวลรัษฎากรนั้นอยู่เหนือขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ
2.พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช. รับทรัพย์สินใดเกินกว่า 3,000 บาท โดยตนจะส่งเรื่องการทุจริตต่อหน้าที่ของนายกฯไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง และตนจะทำคำยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้เอาผิดต่อไป
ทั้งนี้ นางอมรัตน์ ระบุว่า นับตั้งแต่ปีถัดจากเกษียณอายุ คือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนมารับเงินเดือนจากสำนักงานปลัดนายก หรือ สปน. ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา ก็ไม่มีใครได้เห็นแบบ ภงด.90 ของท่านอีกเลย โดย นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า แม้แต่ลูกจ้างโรงงาน ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานห้องเล็กๆที่นายจ้างจัดหาให้ ยังต้องนำประโยชน์จากการได้อยู่บ้านพักฟรี ค่าน้ำค่าไฟฟรีจากนายจ้าง ไปรวมเป็นรายได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งคำสั่งกรมสรรพากร และคำพิพากษาศาลฎีกาที่เคยชี้ขาดออกมาแล้ว คือคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 23/2533 ลูกจ้างต้องคำนวณผลประโยชน์จากการอยู่ฟรีเป็นรายได้พึงประเมินในอัตราร้อยละ 20 ของรายได้จากเงินเดือนตลอดทั้งปี และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2536 ให้ถือค่าน้ำ ค่าไฟฟ่า ค่าแก๊ส ที่ได้จากการอาศัยในบ้านที่นายจ้างให้อยู่ เป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรมาตรา 39, 40 ต้องนำไปคำนวณเพื่อยื่นเสียภาษี ภงด.90, 91 ด้วย
ดังนั้น ค่าไฟฟ้าและน้ำประปาที่กองทัพบกจ่ายให้ทุกเดือน พล.อ.ประยุทธ์ต้องนำไปเสียภาษี ถ้าไม่เสียก็ถือว่าเป็นการหนีภาษี แต่เนื่องจากคำสั่งสรรพากรระบุเฉพาะเป็นบ้านที่นายจ้างให้กับลูกจ้างเท่านั้น สำหรับท่าน เนื่องจากกองทัพไม่ใช่นายจ้าง ท่านจึงเพียงต้องนำเฉพาะส่วนที่เป็นค่าไฟฟ้าค่าน้ำประปา ซึ่งเดือนนึงน่าจะหลายหมื่นบาท ไปเป็นรายได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีตามภงด. 90, 91
หลังจากนั้น นางอมรัตน์ได้สรุปถึงความผิดของ พล.อ.ประยุทธ์ในกรณีบ้านพัก ว่ามีด้วยกัน 3 ประการ คือ
1) การไม่แสดงรายการเกี่ยวกับบ้านพักในค่ายทหาร ถือเป็นความผิดจงใจยื่นแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตาม พรป.ป.ป.ช. มาตรา 114 และมีโทษตามมาตรา 167
2) การหนีภาษี มีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 และความผิดตามประมวลรัษฎากร หลังเกษียณแล้วการไม่นำผลประโยชน์อื่นใด คือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาที่ได้จากกองทัพไปรวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี มีความผิดอาญาตามปีปฎิทินที่ยื่นภาษี ผิดกฎหมายอาญา ทุจริตต่อหน้าที่ฐานหลบหนีภาษี ตามมาตรา 37 ทวิ ผิดปีละ 1 กระทง จำนวน 6 ปี พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
3) การรับประโยชน์ค่าไฟฟ้าเกิน 3 พันบาทในทุกเดือน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2561 มาตรา 128 มีโทษตามมาตรา 169 จำคุกไม่เกินกระทงละ 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท คิดเป็นโทษจำคุก 76 กระทง รวมทั้งสิ้น 228 ปี เป็นไปตามบรรทัดฐานที่ ป.ป.ช.ได้เคยชี้มูลไว้แล้ว มีความผิดเรียงเป็นรายกระทง 76 กระทง นับจากวันที่ท่านเกษียณอายุราชการในปี 2557
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon