เมื่อวานนี้ 16 มี.ค. 64 ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. กลุ่ม CARE จัด Clubhouse โดยมีแขกรับเชิญสุดพิเศษอย่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี โดยใช้ชื่อว่า Tony Woodsome ในการปรากฏตัวร่วมรายการใน Clubhouse
ทั้งนี้นักร้องหนุ่ม นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ได้เข้าร่วมฟังในการจัดรายการครั้งนี้ด้วยและในช่วงหนึ่งนักร้องหนึ่มได้ตั้งคำถามถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มราษฎรได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุการณ์ผิดปกติหลายอย่างในกระบวนการคุมขัง เช่น มีการจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปตรวจโควิดช่วงยามวิกาลในเวลา 23.00 น. การไม่ให้ประกันตัวหลายครั้ง รวมถึงการใช้ความรุนแรงที่เกินสัดส่วนความจำเป็นต่อผู้ชุมนุมทางการเมือง โดยถามว่า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรงหรือไม่ และสิ่งเหล่านี้ส่งผลอย่างไรต่อความเชื่อมั่นที่ต่างชาติมองไทย
ดร.ทักษิณ ตอบว่า การนำตัวผู้ต้องหาออกไปตรวจโควิด-19 ตอนกลางคืนเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะว่าปกติ 6 โมงเย็น เรือนจำก็จะไม่มีการทำกิจกรรมอะไรแล้ว แม้แต่เวลามีผู้ต้องขังป่วยสาหัสก็ต้องรอ 8 โมงเช้าก่อน ฉะนั้นกรณีนี้ผิดปกติอย่างชัดเจน ส่วนกรณีสิทธิประกันตัว ในสากลใช้สิ่งที่เรียกว่าระบบปฏิปักษ์ ที่ฝ่ายโจทก์ และจำเลยต้องมาต่อสู้กันต่อหน่้าศาล เพื่อให้ศาลตัดสินว่าใครผิดใครถูก โดยจะต้องมีการสันนิฐานไว้ก่อนว่าผู้ถูกกล่าวเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่วันนี้หลังจากที่มีอำนาจเผด็จการ เราหมุนตัวเองกลับไปสู่ Accusatorial System คือระบบกล่าวหา ระบบปักปมว่า โดยสันนิษฐานว่าผิดไว้ก่อน จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าคุณไม่ผิด ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสากล และแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่มีหลักการที่เป็นสากล ซึ่งจะส่งผลต่อเวทีการเมือง และการลงทุนระหว่างประเทศด้วย
วันนี้เราต้องคิดระยะยาวว่า ประเทศเราจะอยู่อย่างไร เยาวชนจะอยู่อย่างไร เราต้องมีกติกาที่เป็นสากล และสากลรับได้ว่า เราเป็นประเทศที่ศิวิไลซ์ ไม่ใช่เป็นประเทศหลังเขา และหลักการนี้ต้องอยู่ในทุกระบบของกระบวนการยุติธรรม นี่ผมจบปริญญาเอกทางกระบวนการยุติธรรมอาญานะครับ ฉะนั้นเราต้องยึดหลักสากล และให้ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้
ดร.ทักษิณ เผยอีกว่า ถ้ายึดหลักสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้กระทำความผิด เขาควรได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ เขาควรได้รับการประกันตัว เพราะว่าปัญหาอีกข้อหนึ่งคือ การยึดหลักกฎหมายที่เป็นธรรม คือทุกคนถูกปฏิบัติด้วยหลักการเดียวกัน ไม่ใช่ฝั่งหนึ่งทำยังไงก็ให้ประกัน อีกฝั่งหนึ่งไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่ให้ประกัน มันไม่ได้ คนมันคิดเป็น ในโซเชียลมีเดียมันมีหลักฐาน ผ่านไปอีก 10 ปี ก็ค้นเจอ เมื่อค้นเจอแล้วถามว่า เราตายล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่ทำไปมันถูกไหม ลูกหลานจะคิดอย่างไร “วันนี้ต้องคิดถึงระยะยาว ต้องมองไกล อย่ามองใกล้ โลกทั้งโลกมันใหญ่นะ มันไม่ใช่เท่าค่ายทหาร”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก EasyYukhon