จอห์นวิญญู เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังตัวแทน พลเอกประยุทธ์ แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท เจ้าตัวชี้ รู้สึกตื่นเต้นเพราะได้ใกล้ชิดนายกมากที่สุดเท่าที่อยู่ด้วยกันมา 7 ปี เพราะก่อนทำรัฐประหาร สมัย ผบ.ทบ. ก็ได้เชิญมาร่วมพูดคุยในเรื่องของประเด็นการยึดอำนาจอยู่แล้วตนวิจารณ์นายกรัฐมนตรีมา 7 ปีแล้วและปีนี้เข้าสู่ปีที่ 8 เพราะฉะนั้นควรเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในฐานะเป็นบุคคลสาธารณะ และใช้เงินภาษีประชาชนในการบริหารประเทศ เพราะฉะนั้นประชาชนในฐานะผู้เสียภาษีทำไมจะแสดงความเห็นไม่ได้
28 พ.ค. 64 เวลา 10.00 น. ที่สน.นางเลิ้ง นายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พร้อมด้วย นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางมาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาจากกรณีที่นายอภิวัฒน์ ขัยทอง ตัวแทนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ด้าน นายกฤษภางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า จอห์นวิญญู ในฐานะสื่อมวลชนแคยทวิตเตอร์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี เรื่องการยึดอำนาจเข้ามาแล้วบริหารงานไม่โปร่งใส
2 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมีนายอภิวัฒน์ ขันทอง ซึ่งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี แต่งตั้งโดยพลเอกประยุทธ์เป็นผู้แจ้งความ และรับทำหน้าที่มาแจ้งความทุกคนจะถูกนายอภิวัฒน์ เป็นผู้เข้าแจ้งความ เช่น นายฮาร์ท เยาวชนที่มีอาการบกพร่องทางสมอง โดยในวันนี้จะรอฟังว่าจะแจ้งความในข้อหาอะไร และมีความผิดในคำพูดอะไร โดยวันนี้จะชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนว่า เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นว่าคุณจอห์นในฐานะสื่อมวลชนได้กระทำผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำแบบสื่อมวลชนทั่วไป เพราะรัฐบาลเป็นของเรา อำนาจในการปกครองปราชนสามารถิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญบอกไว้แล้วว่าการติชมโดยสุจริตสามารถทำได้ สำหรับการอาจจะถูกฝากขังนั้น ตนมองว่าวันนี้ตำรวจคงไม่จับ เพราะเรามาตามคำเชิญของตำรวจในฐานะผู้ต้องหา แต่อาจจะถูกส่งฝากขัง ทังนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ด้าน จอห์นวิญญู เปิดเผยความรู้สึกในวันนี้ ว่า ตนรู้สึกตื่นเต้นเพราะได้ใกล้ชิดนายกมากที่สุดเท่าที่อยู่ด้วยกันมา 7 ปี เพราะก่อนทำรัฐประหาร สมัย ผบ.ทบ. ก็ได้เชิญมาร่วมพูดคุยในเรื่องของประเด็นการยึดอำนาจอยู่แล้ว แต่เชิญเท่าไหร่ พลเอกประยุทธ์ก็ไม่มา และตลอด 7ปี ที่ผ่านมาก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการเมืองหรือการบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรีของไทยมาตลอด วันนี้ถือว่าอยู่ใกล้ชิดมากที่สุดเพราะชื่ออยู่ใกล้กัน สำหรับเรื่องความกังวลด้านคดีความนั้น นายจอห์นวิญญู กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เพราะเราว่าวิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริต และวิจารณ์อย่างที่ประชาชนทั่วไปในเห็น และเราก็แสดงออกตามสิทธิ์ที่เรามี ส่วนกระบวนการทางกฎหมายก็มีทางทีมทนายความที่เราปรึกษาได้ จึงไม่มีเรื่องกังวลอะไร
ตนวิจารณ์นายกรัฐมนตรีมา 7 ปีแล้วและปีนี้เข้าสู่ปีที่ 8 เพราะฉะนั้นควรเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในฐานะเป็นบุคคลสาธารณะ และใช้เงินภาษีประชาชนในการบริหารประเทศ เพราะฉะนั้นประชาชนในฐานะผู้เสียภาษีทำไมจะแสดงความเห็นไม่ได้ สำหรับในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ถูกดำเนินคดี แต่เท่าที่สังเกตตเท่าที่ผ่านมาก็มีประชาชนเยอะมากที่โดนนายกส่งมาฟ้องหมิ่นประมาทเช่นกัน ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติที่นายกดำเนินการเช่นนี้กับประชาชน จอห์นวิญญูกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก EasyYukhon
