เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเพิ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลการสื่อสารผ่านโซเชี่ยลของพรรค กล่าวถึงคะแนนนิยมของพรรคภาย หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ และสมาชิกสภา กทม. ว่า
ผู้บริหารพรรคมีมติให้ปรับปรุงนโยบาย รับฟังเสียงประชาชน แล้วปรับปรุงการทำงานของพรรคหลายด้าน เช่นการประชาสัมพันธ์ ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมา บางนโยบายยังไม่ถูกใจประชาชน จากนี้จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ต้องมีนโยบายใหม่ ๆ มีแนวทางการทำงานใหม่เพื่อให้พรรคเข้มแข็ง ทันสมัย ตรงกับความต้องการประชาชน ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงการเลือกตั้งทั่วไป
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จะยังขายได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ถ้าปรับปรุงการทำงานแล้ว มีนโยบายใหม่ ๆ ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเดินหน้าอย่างไร เป็นเรื่องของอนาคต เรื่องหลักตอนนี้ทำนโยบายให้ตรงตามความต้องการของประชาชน ทำงานให้ดีขึ้น
ส่วนการที่เพจพรรคพลังประชารัฐลบโพสต์นโยบายที่เคยหาเสียงเมื่อปี 62 ออก นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องเลย โซเชียลมีเดียของพรรคทำมาตลอด เรามองว่าวันนี้การสื่อสารให้ประชาชนทราบหรือเข้าใจ ยังไม่ได้เท่าที่ควร เราก็จะมีการปรับปรุงเท่านั้นเอง ตอนนี้อยู่ระหว่างการตั้งทีมงานมาทำเรื่องนี้ พรรคการเมืองก็เป็นแบบนี้ มีคนเก่าออกไปมีคนใหม่เข้ามา มีนโยบายใหม่ ๆ เข้ามา มีคนใหม่มาเสริมทีม นี่คือสิ่งที่เราจะทำ
นายชัยวุฒิกล่าวว่า "ใครที่เป็นของเก่าเราก็ปรับเปลี่ยนไป พรรคการเมืองต้องเปลี่ยนไปตามเศรษฐกิจ สังคม และกลุ่มคนที่เข้ามาทำงาน อะไรดีก็ทำ อะไรไม่ดีก็ไม่ทำ บางเรื่องที่ติดขัดด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เราก็ปรับเปลี่ยนไป อย่าไปยึดติดกับเรื่องในอดีตมาก เรื่องในอดีตบางอย่างที่มันมีปัญหา แล้วไม่ประสบความสำเร็จเราก็ต้องปรับเปลี่ยน"
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ถูกลบไป ซึ่งถูกใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 62 เป็นช่วงที่อดีตหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ยังเป็นนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นแกนนำด้านนโยบายเศรษฐกิจของพรรค ก่อนจะออกจากพรรคพลังประชารัฐ และออกจากรัฐมนตรีพร้อมนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
ขอบคุณ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว พรรคพลังประชารัฐ และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
