ติดตามกันอย่างต่อเนื่องกับกระแสการเมือง และบรรยากาศของการ โหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งต้องบอกว่า หลังจากการเปิดสภาฯโหวตนายกรัฐมนตรีนัดแรก เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ได้เสร็จสิ้นลง ก็มีกระแสสังคมมากมายตีกลับไปยังเหล่าสมาชิกวุฒิสภาและผู้แทนราษฎร ที่งดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบกับ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก พรรคก้าวไกล อย่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยนายพิธา นั้นได้รับผลโหวตทั้งหมด เห็นด้วย 324 ไม่เห็นด้วย 182 และงดออกเสียง 199 ซึ่งถือว่าน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จึงทำให้มีการโหวตครั้งที่ 2 ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค. 66 ที่จะถึงนี้

โดยหลังจากการโหวตครั้งแรกเสร็จสิ้น กระแสสังคมส่วนมาก นั้นตีกลับเหล่า ส.ว. และ ส.ส. ที่งดออกเสียงและไม่เห็นชอบเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก 1 เหตุผลสำคัญที่ พรรคก้าวไกล นั้นได้คะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสูงถึง 14 ล้านเสียงจากประชาชนทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายๆความเห็นนั้นมองว่า เหล่า ส.ว. และ ส.ส. ไม่ฟังเสียงของประชาชน บางความเห็นนั้นก็มองว่า จะจัดการเลือกตั้งไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายคนที่ได้ที่ 1 ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อมองกลับมาทางฝั่งของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ประชาชนต่างมองว่า พรรคก้าวไกล อาจจะต้องลดเพดานการแก้ไข กฎหมายมาตรา 112 แต่ทางพรรคเล็งเห็นว่า การแก้ ม.112 นั้นเป็นสิ่งที่เคยพูดและสัญญาไว้กับประชาชน จึงไม่สามารถที่จะกลืนน้ำลายตนเองได้ และด้วยเหตุผลนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลัก ที่ทำให้การโหวตในครั้งแรกไม่สำเร็จ เพราะสมาชิกวุฒิสภาหลายคน ต่างกังวลและอภิปรายในเรื่องนี้ในสภาฯกันเป็นส่วนมาก

นอกจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือคำแนะนำแล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ยังได้กำลังใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะทั้งพรรคทั้งนายก ยังคงต้องต่อสู้ในสภาอีกครั้ง ในวันที่ 19 ก.ค. 66 ที่จะถึงนี้ โดยล่าสุด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ได้ออกมาโพสต์ Story IG เป็นภาพที่เจ้าตัวถือเสื้อรูปหน้าตัวเอง สกรีนคำว่า “HOPE” ที่แปลว่าความเชื่อ พร้อมกับระบุข้อความว่า “ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ไม่มีความกลัว มีแต่ความหวัง” และใส่เพลงประกอบคือเพลง “ประชาธิปไตย” ของ HOCKHACKER (เดชาธร บำรุงเมือง)
