ประเด็นการปลูกกัญชาเสรีนั้น ยังคงเป็นที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนอย่างมาก ว่าต้องทำอย่างไรบ้างจึงจะปลูกได้โดยไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงการนำผลผลิตที่ได้จากการสกัดกัญชาไปต่อยอด เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น มีข้อจำกัดหรือไม่
ซึ่งทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้พูดถึง ประเด็นการปลดล็อคกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุขเอาไว้อย่างน่าสนใจอย่างมาก โดยระบุว่า "ประเด็นปลดล็อกกัญชา ไม่ได้ปลดจริง เป็นการปลดแบบ ตามใจประชาชน เป็นนโยบายของพรรคการเมืองสายเขียว
ชาวบ้านก็หลงเชื่อ เริ่มปลูกกันแล้ว ซึ่งถ้าโดนจับ พรรคที่เป็นเจ้าของนโยบาย จะแพ้เลือกตั้งครั้งหน้า ดังนั้นจึงได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา กระทรวงสาธาราณสุขออกมาปลดออกจากยาเสพติดประเภท 5 รอไปอีก 120 วัน
อันที่ 2 ก็คือ กัญชายังไม่เสรี เพียงปลดออกจากยาเสพติดประเภท 5 แต่ยังถูกควบคุมอยู่ อะไรที่สกัดจากกัญชา ยังต้องถูกควบคุมอยู่ หมายความว่า ไม่ว่าจะนำไปใช้ทำอะไร เป็นยา เป็นอาหารเสริม จากกัญชา ต้องถูกควบคุม
ประเด็นสุดท้าย ที่จะใช้กัญชาได้คือ จะต้องมีกฏหมายควบคุม ซึ่งตอนนี้ กำลังร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชงอยู่ ดังนั้นประชาชนควรอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวติดคุก ไม่ได้ให้ปลูกเสรีขนาดนั้น เสรีแต่คำพูด เป็นนโยบายสวยหรูของพรรคการเมือง แต่จริงๆ ไม่ใช่กัญชาเสรี ต้องรอร่าง พ.ร.บ. และกฎหมายควบคุมออกมาก่อน เพราะฉะนั้นจะเสรีหรือไม่ ต้องไปถามหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่หาเสียงไว้ หรือจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทุน ส่วนใหญ่คนก็จะมองไปแนวหลัง ซึ่งต้องขออนุญาต
ส่วนเรื่องที่ให้ปลูกได้ 6 ต้น นั้นเป็นเพียงคำพูดของนักการเมืองเท่านั้น ประชาชนอยู่เฉยๆ รอกฏหมายให้ร่างก่อน รอประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขให้ครบ 120 วัน อย่าเพิ่งไปเสพ ไปปลูก หรืออะไรต่างๆ กฏหมายมันยังไม่นิ่ง"