บทสัมภาษณ์นักแสดงซีรีส์ บทเรียนรักต้องห้าม เอ็ดเวิร์ด เฉิน และ สวี่เหว่ยหนิง

หลังจากปล่อยตัวอย่างออกมาให้ได้ฮือฮาถึงเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ ระหว่างครูสาวและนักเรียนหนุ่มกันแล้วสำหรับ ออริจินัลซีรีส์เรื่อง บทเรียนรักต้องห้าม (Lesson in Love) นำแสดงโดย 2 นักแสดง เอ็ดเวิร์ด เฉิน และ สวี่เหว่ยหนิง ที่ต้องยอมรับว่า แค่เพียงเห็นตัวอย่างก็สามารถรับรู้ได้ถึงเคมีที่เข้ากันระหว่างการแสดงของนักแสดงทั้งคู่ และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมาที่ไต้หวัน ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ อย่างเป็นทางการโดยมีสื่อมวลชนชาวไทยเข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ในรูปแบบออนไลน์  โดยนักแสดงทั้งสองก็ได้กล่าวคำทักทายสื่อมวลชนชาวไทยว่า “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” และได้แนะนำตัวเองพร้อมฝากผลงาน บทเรียนรักต้องห้าม (Lesson in Love) ที่พร้อมสตรีมมิ่งให้ได้ชมพร้อมกัน 11 ธันวาคมนี้ ทุกวันอาทิตย์เวลา 19.00 น. และ ภายในงานแถลงข่าวมีการสัมภาษณ์พูดคุยกับนักแสดงที่มาร่วมงานในวันนี้

QNS：ทั้งสองคนคิดว่าบทบาทที่แสดงมีอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างจากชีวิตจริงบ้าง

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ผมคิดว่ามีบางส่วนที่ผมคล้ายกับตัวละคร  จริงๆผมอยากเป็นคนที่ขี้เล่นๆ แกล้งหรือหยอกล้อกับคนอื่น แต่ว่าในชีวิตจริงผมไม่ค่อยกล้า รู้สึกไม่กล้าพอที่จะแกล้งหรือหยอกล้อคนอื่นเหมือนตัวละคร ดังนั้นตอนที่ผมแสดง ผมมีความสุขมากจริงๆ เพราะผมสามารถทำในสิ่งที่ผมที่ผมอยากทำได้อย่างอิสระครับ

สวี่เหว่ยหนิง : ฉันคิดว่าส่วนที่คล้ายกันคือความแน่วแน่และความเชื่อมั่น เธอเชื่อมั่นว่าเธอชอบการเป็นครู เธออยากที่จะสอนให้นักเรียนของเธอได้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ส่วนในการใช้ชีวิต เธอก็เชื่อมั่นในความรักที่เธอปรารถนา กล้าที่จะเดินหน้าต่อไป นี่คือสิ่งที่ตัวละครคล้ายกับฉันค่ะ

QNS：อยากให้ทั้งสองคนช่วยฉากที่ประทับใจมากที่สุด

สวี่เหว่ยหนิง : มีฉากหนึ่งที่พวกเราต้องอยู่ท่ามกลางสายฝน ก่อนเข้าฉากพวกเราก็ได้นำน้ำมาสาดให้เปียกหมด เปียกจนเอ็ดเวิร์ดบอกฉันว่า พึ่งไปว่าน้ำมาใช่ไหม (หัวเราะ) พวกเราเหมือนเป็นน้ำพุที่มีน้ำไหลมาจากร่างกาย ตอนนั้นตลกมากๆเลยค่ะ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ของผมจะเป็นฉากที่ปีนหน้าผาจำลอง จริงๆผมเคยเล่นมาก่อน แต่พี่สวี่เหว่ยหนิงไม่เคยเล่นมาก่อน ตอนที่ถ่ายทำไม่ทันไรพี่เขาก็ปีนไปที่ข้างบนแล้ว ผมยังอยู่ข้างล่างอยู่เลย (หัวเราะ)

QNS：คุณมีความกังวลอะไรบ้างไหม เมื่อรับซีรีส์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณครูและนักเรียน

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ตอนที่ผมอ่านบทฉันรู้สึกว่าเป็นบทที่ดีมาก ตอนที่อ่านบทตอนแรกจบก็อ่านบทในตอนต่อไปเรื่อยๆ ผมได้ดูซีรีส์แล้วประมาณ 7 ตอน คิดว่ามันถ่ายทอดความรู้สึกตอนที่ผมอ่านบทไปยังหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมันเหลือเชื่อมาก ผมถือว่าโชคดีมากที่ได้เจอบทดีๆโดยไม่ต้องกังวลอะไร นอกจากนี้ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจทำงานมาก ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่มีความสุขมากในฐานะนักแสดง

สวี่เหว่ยหนิง : ฉันไม่กังวลอะไร เพราะเมื่อฉันรับบทนี้แล้วผมต้องไม่กังวลอะไรใดๆทั้งสิ้น ถึงมันจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณครูกับนักเรียนแต่สิ่งที่เราอยากพูดถึงเป็นหลักคือความรักมันเป็นแบบไหน เราต้องเติบโตในความรักนี้ เรียนรู้ และปล่อยให้ความรักพัฒนาต่อไป เราอยากให้ทุกคนรู้จักการเติบโตในความรักครั้งนี้ค่ะ

QNS：คุณไอวี่ หยิน เผยว่าตอนที่ทั้งสองคนต้องถ่ายฉากที่ทั้งสองต้องใกล้ชิดกัน จะมีการเคลียร์คนออกไปข้างนอกด้วย เพราะอะไร

สวี่เหว่ยหนิง : เพราะว่าเป็นฉากที่ต้องใกล้ชิดกัน เราต้องให้มีสภาพแวดล้อมที่อุ่นใจ ปลอดภัย และทีมงานก็ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างมันขึ้นมา แน่นอนว่าบางครั้งหากมีคนจำนวนมากในฉาก คุณจะรู้สึกเหมือนถูกจับตามองตลอดเวลาหรืออาจจะเกร็งออกมาค่ะ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ผมเคยถ่ายทำฉากที่ค่อนข้างใกล้ชิดมาก่อน ต้องทำให้นักแสดงมีพื้นที่ปลอดภัย ต้องขอขอบคุณทางทีมงานมากๆที่ได้ให้พื้นที่การแสดงในตรงนี้ จึงทำให้เราทั้งสองคนได้ถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างที่เราต้องการ

QNS：สำหรับ สวี่เหว่ยหนิง คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ท้าทายคุณที่สุดสำหรับบทบาทนี้ ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง คุณอยากเป็นคุณครูไหม

สวี่เหว่ยหนิง : สิ่งที่ยากคือฉันต้องจำเนื้อหาสิ่งที่ที่ต้องการพูดให้นักเรียนฟัง ต้องทำให้ตัวเองเชื่อว่าเรื่องนี้คุณครูรู้ดีที่สุด ฉันเคยอยากเป็นคุณครู ตอนเด็กๆ อยากเป็นคุณครูสอนภาษาจีน พอมาเรื่องนี้ได้มาเป็นก็เหมือนจะทำให้ฝันตอนเด็กๆกลายเป็นจริงเล็กๆค่ะ

QNS：นิยามอีกฝ่ายใน 3 คำ

สวี่เหว่ยหนิง : ความบริสุทธิ์ , ตั้งใจ , มีความสามารถ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : มีออร่า , มีสง่า , สวย

QNS：ถ้าเปรียบตัวละครของอีกฝ่ายเป็นสี คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นสีอะไร

สวี่เหว่ยหนิง : สีน้ำเงินค่ะ ฉันคิดว่าสีน้ำเงินเป็นสีกลางๆ ถ้าคุณใส่สีขาวเข้าไปก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า หรือถ้าหากจะทำให้เข้มขึ้นมันก็จะเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเปลี่ยนไปในแต่ละสถานการณ์ เหมือนกับการเดินทางของตัวละครของเขาตั้งแต่เข้าโรงเรียนจนจบการศึกษา ฉันคิดว่าสีน้ำเงินเหมือนกับประสบการณ์ที่เขาได้เก็บเกี่ยวจากเด็กน้อยกลายเป็นผู้ใหญ่ ฉันเลยคิดว่าสีน้ำเงินเหมาะกับจาง อีเสียง บทบาทที่เอ็ดเวิร์ด เฉินเล่นมากค่ะ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ผมก็คิดว่าเขาเหมือนสีน้ำเงินครับ เวลาที่ผมคิดว่าสีน้ำเงินคือความอ่อนโยน เหมือนกับตัวละครของเธอครับ

QNS：ถ้าสามารถสลับบทบาทกันได้ อยากเล่นเป็นใครเป็นเรื่องนี้

สวี่เหว่ยหนิง : อยากเล่นเป็นของคุณไอวี่ หยิน ครับ เพราะบทบาทของเธอเป็นคนที่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด มีหุ่นเชิดที่อยู่บนมือเธอ ขยับไปทางนี้ ขยับไปที่นั่น และทุกอย่างเกิดขึ้นภายใต้การบงการของเธอ เป็นบทบาทที่จะถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆได้เป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นเป็นนี้ครับ

สวี่เหว่ยหนิง : ฉันอยากเล่นบทของคุณเซวียชื่อหลิง เพราะบทของเขาซับซ้อนมาก ตอนอ่านบทก็เลยจินตนาการเยอะว่าบทนี้เดาไปเรื่อยว่าใครจะเล่นถึงขนาดพูดกับผู้กำกับว่า บทนี้เดี๋ยวฉันเล่นเอง ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มถ่ายทำก็อยากที่จะลองเล่นบทนี้แล้วค่ะ

QNS：ให้นิยาม ซีรีส์เรื่องนี้ใน 3 คำ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน & สวี่เหว่ยหนิง : วัยหนุ่มสาว , การยอมรับ , ความหลากหลาย

QNS：ที่ประเทศไทยตั้งแต่ยังไม่สตรีมมิ่งก็ได้รับสียงตอบรับและความนิยมอย่างมาก พวกคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

สวี่เหว่ยหนิง : ขอบคุณค่ะ ขอบคุณแฟนๆที่รอคอยและซัพพอร์ตพวกเรา พวกเราหวังว่าทุกคนจะชอบซีรีส์ บทเรียนรักต้องห้าม (Lesson in Love) เรื่องนี้นะคะ

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : หวังว่าทุกคนจะชอบซีรีส์เรื่องนี้กันเยอะๆนะครับ

QNS：ทั้งสองเคยไปประเทศไทยไหม  ครั้งล่าสุดไปเมื่อไหร่

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ผมไปตอนเด็กๆครับ แต่จำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว จริงๆปีที่แล้วผมจะได้มีโอกาสไปเที่ยวกับที่บ้าน แต่ไม่ได้ไป คุณยายบอกว่าได้ไปสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ที่ที่สามารถใกล้ชิดกับสัตว์ได้รอบตัว รู้สึกว่าถ้าได้ไปน่าจะเป็นประสบการณ์ที่แสนพิเศษครับ

สวี่เหว่ยหนิง : ฉันเคยไปบ่อยๆค่ะ ตอนนั้นฉันได้มีโอกาสมีทำงานที่ไทย ฉันชอบอาหารไทยมากๆเลยค่ะ ฉันรักเมืองไทยค่ะ

QNS：ทั้งสองอยากทานอาหารไทยเมนูใดและอยากบอกอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยบ้าง?

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : ถ้าให้เลือกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ผมขอเลือกเป็นทอดมันกุ้งครับ ผมสามารถกินได้เป็นร้อยชิ้น (ยิ้ม) ฝากติดตามซีรีส์เรื่อง บทเรียนรักต้องห้าม (Lesson in Love) ด้วยนะครับ หวังว่าเราจะเจอกันเร็วๆนี้ครับ

สวี่เหว่ยหนิง : ตอนที่ฉันไปทำงานที่เมืองไทยได้ลิ้มรสอาหารอร่อยๆมากมาย ที่ฉันชอบคือโรตีกล้วยหอม มันจะคล้ายกับแพนเค้กกล้วย เขาจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วราดด้วยนมข้นหวาน ฉันจำได้ว่ากินเป็นสัปดาห์เลย ตอนนั้นฉันผอมมาก พอมากินโรตีแล้วน้ำหนักขึ้นเลย (หัวเราะ) แต่พอกลับไปที่ไทยอีกครั้ง ก็เหมือนจะไม่มีแล้ว ฉันตามหาทั่วเลย เจอแต่ข้าวเหนียวมะม่วง ถ้าหากครั้งหน้าไปอีก ฉันจะไปกินโรตีซัก 5 โลเลย สุดท้ายอยากขอบคุณแฟนที่สนับสนุน บทเรียนรักต้องห้าม (Lesson in Love) หวังว่าพวกเราจะได้เจอกัน มากินอาหารด้วยกัน

เอ็ดเวิร์ด เฉิน : กินทอดมันกุ้งด้วยกันนะครับ

สวี่เหว่ยหนิง : ขอบคุณจริงๆค่ะ