SEGA Singapore ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SEGA บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ระดับโลก เข้าร่วมกับ Finschia ในฐานะสมาชิกกำกับดูแล (Governance Member) และผู้ตรวจสอบเครือข่าย เพื่อรักษาความปลอดภัยของการดำเนินงานบล็อกเชนเมนเน็ต Finschia
เกม Web3 ที่จะได้รับการพัฒนาโดยใช้ SEGA IP จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Finschia ที่ยังคงเติบโตและพัฒนาต่อไป
อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – 18 มกราคม 2567 – สถาบัน Finschia Foundation องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีสำนักงานใหญ่ในอาบู ดาบี และเป็นผู้สืบทอดอิสระ (independent successor) ของบล็อกเชนเมนเน็ตและสินทรัพย์ดิจิทัลของ LINE Blockchain ประกาศวันนี้ว่า SEGA Singapore ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง SEGA ได้เข้าร่วม Finschia ในฐานะสมาชิกกำกับดูแล
Finschia Foundation ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคมโดย LINE Tech Plus ซึ่งเป็นธุรกิจบล็อกเชนของ LINE มีพันธกิจในการขยายธุรกิจ Web3 และพัฒนารูปแบบโทเคนที่ยั่งยืนสำหรับผู้ใช้งาน Web3 ทั่วโลก สมาชิกกำกับดูแล Finschia (Finschia Governance Members) คือระบบการตัดสินใจที่ประกอบไปด้วยบริษัทต่างๆ เพื่อบริหารจัดการสถาบันให้มีความมั่นคง และพัฒนาเศรษฐกิจโทเคนที่โปร่งใส ปัจจุบันมีสมาชิก 17 ราย ซึ่งรวมถึง LINE NEXT, SoftBank, CertiK และ Neopin การเข้าร่วมสมาชิกของ SEGA Singapore ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างให้การกำกับดูแล Finschia ,ความแข็งแกร่งมากขึ้น และช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของเครือข่าย โดย Finschia มีแผนที่จะขยายขีดความสามารถในการแข่งขันโดยใช้ศักยภาพของบริษัทชั้นนำจากภาคส่วนต่างๆ
ในฐานะสมาชิกกำกับดูแล SEGA Singapore จะร่วมบริหารจัดการงานทั่วไปและมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจของสถาบัน Finschia Foundation รวมถึงตรวจสอบการทำงานของบล็อกเชนเมนเน็ต และความปลอดภัยของเครือข่ายในฐานะผู้ตรวจสอบเครือข่าย นอกจากนี้ SEGA และ Finschia จะร่วมมือกันพัฒนาเกม Web3 โดยใช้เกม IP ยอดนิยมของ SEGA เพื่อขยายระบบนิเวศ Finschia และทำให้ Web3 เป็นที่นิยมแพร่หลายอีกด้วย
SEGA Singapore เป็นบริษัทในเครือของ SEGA ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้านการพัฒนาและเผยแพร่เกมประเภทต่างๆ บนแพลตฟอร์มหลากหลายประเภท โดย SEGA Singapore มีหน้าที่ในการพัฒนาธุรกิจ Web3 ของ SEGA Group ทั่วโลก และดูแลกิจกรรมทางการตลาดเพื่อนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของบล็อกเชนสาธารณะ Finschia ในเดือนธันวาคม 2566 ผู้ใช้งานทุกคนสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์กลาง (Decentralized apps: dApps) โดยใช้ระบบบล็อกเชน Finschia โดย Finschia มีแผนที่จะสนับสนุนการเติบโตของ dApps ในหลากหลายภาคส่วน บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะที่พันธมิตรและผู้ใช้ทั่วโลกสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
