วันพุธที่ 22 มกราคม 2568
SHARE

"ฟลุ๊ค กะล่อน" เผยแม่เคยไล่แฟนหนุ่มออกจากบ้าน เพราะรับไม่ได้อยากให้มีเมียแก่!

โพสต์โดย Jarm Team เมื่อ 14 มีนาคม 2567 - 17:06

เปิดใจแบบหมดเปลือกเน็ตไอดอลชื่อดัง "ฟลุ๊ค กะล่อน หรือ ฟลุ๊ค-ธรรณพ แสงโอสถ" เล่าอดีตชีวิตที่เติบโตในกรมทหาร ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สู่เส้นทางเน็ตไอดอล เปิดตัวเป็น LGBTQ ทำแม่รับไม่ได้ เพราะอยากให้มีเมียแก่ ถึงขนาดไล่แฟนหนุ่มออกจากบ้าน ต้องฝ่าฟันอุปสรรคความรัก 9 ปี ในรายการ WOODY FM

คุณโตขึ้นมาด้วยประสบการณ์ชีวิต เรียนรู้เยอะมาก และผ่านดราม่ามาทุกรูปแบบ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : คือเยอะมาก เคยนึกย้อนกลับไปว่าถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้แข็งแรงเท่าหนู หรือเข้มแข็งเท่าหนูตอนนี้เขาจะเป็นยังไง มันหนักมากๆ ถึงขั้นที่โดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วยแค่คำพูดของชาวเน็ตที่สร้างเรื่องขึ้นมา มันสามารถทำให้เราแย่ลงได้เลย

รู้สึกเฟลขนาดไหน ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ต้องบอกว่าโชคดีที่คนรอบข้างเราดีมากๆ ตัวหนูเองเป็นคนไม่อ่านคอมเมนต์ 99% ไม่อ่านเลย เพราะฉะนั้นทุกคนจะถามว่าผ่านมาได้ยังไง เพราะมันมากๆมันเคยติดเทรนด์ทวิตเตอร์ สิ่งที่หนูตอบคือ ไม่ได้อ่านค่ะ (หัวเราะ) แค่นั้นเลย

ไม่อ่านแล้วมันก็จะผ่านไปเหมือนทุกอย่างบนโลกใบนี้ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ใช่ค่ะ รู้สึกว่าสิ่งที่เขาเห็นมันเป็นแค่เสี้ยวเดียวของชีวตเรา เราลงรูปก็ยังต้องแต่งรูป เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่ 100% ในชีวิตเราแน่นอนที่เขาเห็นคือนิดเดียว ถ้าจะตัดสินตรงนั้น ก็เลยรู้สึกว่าไม่ได้ซีเรียสหรือไม่ได้สนใจอะไร เพราะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

คุณเกิดมาในครอบครัวแบบไหน ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : โตในกรมทหารเลย อยู่ในบ้านพักสวัสดิการ พ่อเป็นลูกจ้างประจำ เหมือนโตจากทหารเกณฑ์แล้วนายรักก็ได้สอบจนเป็นลูกจ้างประจำอยู่กรมขนส่ง ทุกอย่างเป็นรั้วรอบขอบชิดมาก โรงเรียนที่เรียนก็เป็นประตูติดกับกรมทหารเลย

แล้วการเป็น LGBTQ ในกรมทหารเป็นยังไง ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ไม่มีโอกาสได้คิดค่ะ เพราะว่าฐานะก็ไม่ได้ดี แล้วก็โทรศัทพ์หนูก็มีตอน ม.2 แล้ว ก็ไม่รู้ว่าอะไรคือ LGBTQ รู้แค่ว่า ณ ตอนที่เรากำลังเรียนอยู่ทั้งชั้น มีเพื่อนคนหนึ่งที่ถูกล้อว่าตุ๊ด ซึ่งเราไม่อยากโดนแบบนั้น ก็เลยทำตัวปกติเหมือนเด็กผู้ชาย อยู่ในแก๊งค์ผู้ชาย เพราะไม่รู้ว่าอันไหนคือตุ๊ด อันไหนคือกระเทย ต้องทำตัวยังไง เราได้ยินพ่อแม่ปลูกฝังตลอดว่าเราต้องเป็นทหาร ไม่มีโอกาสได้รู้มากกว่านั้นเลย เรียนเสร็จก็เข้าบ้าน ตอนเย็นก็ไปเตะบอล เตะตะกร้อ เล่นปิงปอง เขาไปไล่ตีกันเราก็ไปด้วย เคยโดนฟันด้วยที่หลังโรงเรียนตอนปิดเทอม เผลอโดนลูกหลงโดนขวานฟันข้างหลัง เย็บ 8 เข็ม ตอนอายุ 15

ค้นพบว่าเราชอบอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นตอนไหน ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ตอนนั้นพ่อเสียแล้วค่ะ ยังไม่มีใครรู้เลยรวมทั้งเพื่อนสนิทไม่มีใครรู้เลยว่าเราเป็นอะไร ตัวเราเองเวลาอาบน้ำจะมีการส่องกระจกว่าเราเป็นอะไร ไม่ได้อยากจะเป็นผู้หญิง ก็ไม่ได้ชอบที่เป็นอยู่ แต่เป็นอะไรก็ไม่รู้ จนกระทั่งพ่อเสีย เราก็ถูกแชร์รูปไปทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เลยได้คุยกับแฟนก็คือคนปัจจุบัน คุยเล่นแบบพี่น้องคุยกันไปเรื่อยๆ เกือบ 2 ปี เป็นวันที่เรารู้สึกว่าหาเงินได้ ทำงานได้แล้ว เลี้ยงแม่ได้เพราะพ่อเราไม่อยู่แล้ว

เลยรู้สึกว่าพร้อมจะบอกกับทุกคนแล้วว่าคุยกับคนนี้อยู่ คนนี้คือแฟนเราก็เลยพามาหาแม่แล้วก็บอกเพื่อนทุกคนพร้อมกันหมดว่าคนนี้เป็นแฟนฉัน ทุกคนก็ตกใจมากๆ รวมทั้งแม่ แม่ก็รับไม่ได้ 100% แล้วก็ไล่แฟนเราออกจากบ้าน แต่เพื่อนทุกคนแฮปปี้รับได้หมดแทบไม่ได้ตกใจอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะแม่จะปลูกฝังว่าเราต้องมีเมียแก่นะ เพราะเมียแก่จะเลี้ยงเราได้ตั้งแต่เด็ก แต่เราก็พาแฟนมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง 1-2 ปีก็เริ่มมองหน้ากันได้ คุยกันได้

หลังจากนั้นเขายอมรับการเป็นตัวเรายังไง ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : เราก็พยายามบอกแม่ว่าสุดท้ายแล้วแม่ไม่ใช่เจ้าชีวิตหนู แม่ก็คือแม่ หนูก็คือหนู เพราะฉะนั้นก็ต้องมีชีวิตของหนู แล้วรู้สึกว่าถ้าเรารักใคร แม่ก็ควรจะรักด้วย เพราะเขาไม่ได้มาไม่ดีหรืออะไร เราคุยกันมาก่อน 2 ปีกว่าจะมีวันนี้ด้วยซ้ำ ก็อธิบายให้เขาฟัง ต้องบอกว่าแม่มีความหัวโบราณหน่อย เขาก็ค่อยๆ เข้าใจมากขึ้น ว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วเป็นยังไง สนับสนุนกันดีแค่ไหน เรามีชีวิตที่ดีขึ้นยังไงบ้าง คิดว่าแม่ก็น่าจะเห็นตรงนั้นแล้วก็แฮปปี้

ในวันที่คุณพ่อและคุณแม่จากไป คุณได้เห็นอะไรบ้าง ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ครั้งแรกตอนที่พ่อจากไปก็รู้สึกว่ายังมีแม่อยู่ ชีวิตไม่ได้ขาดอะไรมากขนาดนั้น จนกระทั่งวันที่แม่ไปมีหลายอย่างที่ตั้งใจไว้จะทำด้วยกันแต่ยังไม่ได้ทำหรือยังไม่ได้ลา ตอนนั้นที่เขาอยู่เราก็รู้สึกว่าย้ำคิดย้ำทำอะไรหลายๆ อย่างที่เราต้องเจอกับแม่ แต่พอเขาไม่อยู่จริงๆ จุดที่เราต้องเดินผ่านตรงนั้นที่เขาจะนั่งอยู่เป็นประจำที่เขาจะคอยทักเรา รู้เลยว่า โอ้โห! ตรงนี้ที่แม่เขาเป็นห่วงเราจริงๆ ที่เขาบอกเราตลอด แต่เราก็บ่นเขาจะถามอะไรนักหนา ตอนที่อยู่เราไม่เคยพูดดีกับเขาเลย พอถึงเวลาไปจะพูดดีเขาก็ไม่ได้ยินแล้ว ก็มีเสียใจบ้างตรงนี้ แต่ดีว่าช่วงปีนั้นเป็นปีที่มีความสุขกันทั้งเรา แม่ และแฟน ก็เลยไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ยังตกค้างกันอยู่ ทุกอย่างแฮปปี้

คุณคบกับ มั้น กี่ปีแล้ว ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : 9 ปีค่ะ เจอกันในโซเชียล Facebook ค่ะ ก็เหมือนเขาทักมาว่ารับแอดหน่อย แต่จริงๆแล้วเป็นเพื่อนผู้หญิงยืม Facebook เขาทักมา เพราะว่า Facebook ของน้องผู้หญิงคนนั้นเราไม่ได้ตอบ แล้วผู้หญิงคนนั้นเขาสงสัยว่าเราจะเป็นเกย์หรือเปล่าไหนลองเอาของเพื่อนผู้ชายทักสิ ซึ่งเราตอบเขา แต่เราไม่ตอบน้องผู้หญิง (หัวเราะ) ก็เลยเป็นที่มาได้คุยกัน ประมาณ 2 ปีกว่าจะคบกัน แต่ถ้ารวมก็คือ 11 ปีค่ะ

ชอบอะไรในตัวมั้น ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : คือ 2 ปีนั้นเราคุยกันแบบพี่น้อง เพราะเราก็ยังไม่ได้เปิด เพราะไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร คุยเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกว่าคนนี้เรากล้าเล่าหลายๆ เรื่อง กล้าเล่าเรื่องที่บ้าน เขาเป็นคนที่พร้อมจะรับฟังเราทุกเรื่องเลย ดีมากๆ แล้วก็คอยแนะนำ ทั้งๆที่เขาเด็กว่าเรา 3-4 ปี บางอย่างที่เขาแนะนำมาเราขาดตรงนี้จริงๆ เลยรู้สึกว่าชอบเขา และเอ็นดูเขามากๆ

การคบกัน 9 ปีก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวทุกรูปแบบ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : เยอะมาก ต้องบอกว่ามั้นคบกันวันแรกก็คือย้ายของมาอยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่วันแรก ตอนนี้ก็อยู่กันมา 9 ปีบ้านเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็จะเจอทุกอย่างที่แบบพ่อแม่เจอยังไง เราก็เจอแบบนั้นตั้งแต่แรกเลย ทะเลาะเรื่อยเปื่อยแบบจะกินอะไร แต่ไม่มีทะเลาะเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว จะมีแค่การใช้ชีวิตเพราะเราอยู่ด้วยกัน ก็จะได้เห็นทุกอริยาบถทั้งของเขาของเรา 24 ชั่วโมง

รักอะไรในเขาคนนี้ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : เวลาเราพูดถึงเขาจะมีความสุขมาก คือไม่รู้ว่าเราขาดอะไรแต่ว่าพอมีเขาเข้ามารู้สึกว่าเขาเป็นทุกอย่างให้หนูได้ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามต้องปรึกษาเขาก่อน ก็จะให้คำตอบได้ดีมากๆ คือดีใจที่เขาอยู่ทุกช่วงเวลา เขาทำให้หนูโตขึ้นแล้วก็เก่ง มาเติมเต็มทุกๆอย่างที่เราไม่รู้

เหมือนเขาเป็นบุคคลที่เกิดมาเพื่อสนับสนุนคุณเลยนะ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : มากๆ ค่ะพี่วู้ดดี้ ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ 9 ปี เขาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ทุกๆครั้งที่พูดถึงเขาจะมีน้ำตาบ้าง ไม่รู้เพราะอะไร ภูมิใจในตัวเขามากๆ แล้วก็ดีใจที่ได้เจอเขาด้วย

อนาคตอยากแต่งงานไหม ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : อยากแต่งงานค่ะ หนูพูดตั้งแต่ปีแรก คือในชีวิตเขาจะคอยออกแบบนั้นออกแบบนี่ให้เรา แต่สำหรับงานแต่งเราขอคิดเอง จะแต่งริมทะเล อยากแต่งธีมฮาวาย พูดตั้งแต่ปีแรกจนทุกวันนี้ก็ยังยืนยันว่าถ้าแต่งขอเป็นแบบนี้นะ จริงๆก็เคยมีแพลนไว้ตั้งแต่ตอน 7 ปี แต่ว่าก็โควิดด้วย

เดี๋ยวก็จดทะเบียนได้แล้ว ซึ่งจะดีกับคุณทั้งคู่ เป็นปีที่ดีของ LGBTQ เชื่อว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ถ้าจดทะเบียนได้ จดแน่นอนค่ะ

หลายครั้งที่เราดูในคลิปจะมีการทะเลาะกัน จะดูเหมือนเขาไม่แคร์ ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : ถ้าเล่าให้คนอื่นฟังเขาจะบอกว่าจริงเหรอ ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่ได้ทะเลาะกัน เราคุยกัน เหมือนพอเราอยู่ด้วยกันมากๆ แล้วเวลาคุยมันอาจจะมีคำหยาบหรือมีคำแทรกเข้ามาได้บ้างปกติ แล้วเราเป็นคนชอบเสียงดัง ถ้าบางทีเขารู้สึกว่าทำไมต้องเสียงดัง ก็เลยจะทำเสียงดังกลับ เป็นฟีลนั้น เราคุยกันปกติเลย เพราะถ้าทะเลาะกันจริงๆ จะเงียบหันหลังชนกัน แล้วกลางคืนก่อนนอนถึงจะมาเคลียร์กัน คือถ้าทุกคนยังเห็นว่าเถียงกันอยู่คือปกติ (หัวเราะ) เราจะไม่เคยมีเรื่องค้างคืน ทุกคืนเราต้องเคลียร์จบ

มีเรื่องที่คุณยังไม่เคยบอกใคร เรื่องเงินก้อนสุดท้าย ?

ฟลุ๊ค กะล่อน : เรื่องนี้ไม่เคยเล่าเลย เป็นเรื่องที่อยู่ในใจหนูกับมั้นมานานมากๆ เป็นปมในใจเรา 2 คน ย้อนไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว หนูออกจากกรมทหารเพราะพ่อตายก็ต้องไปเช่าบ้านอยู่ มีแม่อยู่ด้วย ตอนนั้นทำ Facebook อยู่ยังไม่ได้ไม่ได้เข้าโลกของ Youtube ทำงานถ่ายรีวิวเยอะมาก จนมีวันหนึ่งมีข่าวว่าสินค้ามีกระแสโดนจับหลายๆร้อยแบรนด์เลย เราก็เลยอ่านข่าวดู ว๊าย! มีที่เราถือหลายแบรนด์มากๆ ก็เลยบอกมั้นว่าแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ รู้สึกว่าเรากำลังหลอกคนที่เขาติดตาม ก็เลยรู้สึกว่าจะเลิกทำตรงนี้แล้ว จะเลิกรีวิว แล้วมีสัญญาที่เราค้างกันอยู่กับพวกแบรนด์ด้วย ก็เลยเอาเงินที่เรามีคืนในสิ่งที่เราค้างสัญญาอยู่ เพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน

เหลือเงินอยู่ประมาณ 3 แสนบาท ก็เลยรู้สึกว่าโอเคเหลือ Youtube ที่เรายังไม่เคยทำ ก็เลยย้ายไปทำ Youtube เริ่มด้วยการหยิบสินค้าที่เรามีที่บ้านมารีวิวเอง แต่จริงๆไม่มีใครจ้าง ก็ลงทุนซื้อกล้อง ซื้อไฟเยอะมาก หมดไป 2 แสน มีเงินเหลือ 1 แสน คิดว่ายังไงคนก็ต้องตามมาเพราะ Facebook เราคนติดตามเป็นล้าน แต่กลายเป็นว่าไม่มีคนดู 1 อาทิตย์ได้แค่ 400 วิว ทำยังไงดีไม่มีรายได้ เลยรู้ว่าคนละ Target เลย เราก็เลยต้องปั้น Youtube แล้วเราเหลือเงินแค่ 1 แสนต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน จนไม่เหลือเงินจริงๆ เหลือแค่ 7 พัน แล้วเราต้องจ่ายค่าบ้านทำไงดี

หมดหนทางมาก ไม่กล้ายืมเงินใครเลย นอนร้องไห้กับมั้นทำยังไงดี แม่จะซื้อข้าวซื้ออะไรก็ไม่มีตังค์ให้แม่ จนนึกได้ว่าตู้เก็บเงินเรามีทองอยู่ 2 บาท ก็เลยเอาทองนั้นไปร้านทอง ก็ขายไปได้มาหมื่นกว่าบาทก็มาต่อ ณ ตอนนั้นไปได้ เราก็เครียดมากๆ ก็ไปขอโทษมั้นเพราะเราไปสัญญากับเขาว่าจะดูแลเขา ขอโทษที่ทำให้ลำบาก แต่คำพูดจากเขา ไม่เคยพูดว่าไม่ภูมิใจในตัวหนูเลย (ร้องไห้ ) เขาอยู่ข้างหนูมากๆ ทำให้เราพร้อมที่จะทำงานทุกวันเลย ไม่เคยโทษอะไรเราเลยที่ทำให้แย่ลง หลังจากนั้นคลิปก็เริ่มมีคนดูเป็นหลักพัน เป็นหมื่น เขาก็ดีใจและแฮปปี้ที่เราทำได้ ใครบอกว่าเธอทำไม่ได้

อ่านเพิ่มเติม


แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

บริการของเรา

Advertising

พื้นที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Web Design

ออกแบบเว็บไซต์ ครบจบในที่เดียว ทั้ง FrontEnd และ BackEnd ด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 15 ปี

Web Application

ไม่ว่าจะธุรกิจใดให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จากรูปแบบเดิมๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Online

VDO Creator

บริการออกแบบ และ จัดทำ Presentation ShowCase Review สินค้า TVC หรือ Viral Clip

เราใช้คุ้กกี้เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy)