จากกรณี บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อดีตพระเอกชื่อดัง ออกมาบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ทว่า เกิดมีพวกมิจฉาชีพหลอกเงินบริจาค ด้าน บิณฑ์ พร้อมทีมงานเข้าแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุด บิณฑ์ ชี้ตัวผู้อยู่เบื้องหลัง ขบวนการหักหัวคิวน้ำท่วมยโสธร
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อดีตพระเอกชื่อดัง พร้อมทีมงานหอบหลักฐานการรับเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมของจ.ยโสธร จำนวนรายชื่อผู้รับบริจาค 2,700 คน ไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ให้กับพ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อให้ทางตำรวจได้นำหลักฐานดังกล่าวไปดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด
ล่าสุด พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รองผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เดินทางไปพบ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพื่อนำสำนวนคดีไปให้บิณฑ์ ลงลายมือชื่อ พร้อมกับนำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยมาให้บิณฑ์ ได้ยืนยัน ซึ่งคาดว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังขบวนการหักหัวคิวเงินช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร โดยสามารถรวบรวมหลักฐานจนน่าเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 20 ราย ส่วนใหญ่พบเป็นผู้นำชุมชน ในพื้นที่อำเภอเมืองยโสธร ตรวจพบว่ามีผู้ถูกชักชวนและแอบอ้างสวมสิทธิให้ไปขอรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ราย
ขณะที่ บิณฑ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าจากพยานหลักฐานทั้งหมดจะสามารถเอาผิดผู้ร่วมขบวนการได้ทุกราย ซึ่งขณะนี้ตนมีพยานบุคคลมากกว่า 40 ราย คาดว่าไม่น่าเกินวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าได้ออกหมายเรียกชาวบ้าน 160 ปากเข้ามาสอบปากคำ และในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลังมาให้ชี้ยืนยั่น ซึ่งตนยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เป็นผู้บงการหรืออยู่เบื้องหลังขบวนการหักหัวคิว และมีผู้ร่วมขบวนการที่เป็นผู้นำชุมชนและผู้ใหญ่บ้านกว่า 20 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีชาวบ้านร่วมแอบอ้างสวมสิทธิน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 ครัวเรือน จึงอยากฝากไปยังชาวบ้านที่น้ำไม่ท่วมแต่มาแอบอ้างรับเงิน และให้ผู้นำเซ็นรับรอง ขอให้ออกมาพูดความจริง นำเงินที่ได้ไปมาคืน โดยเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เพื่อจะกันไว้เป็นพยานในคดี แล้วตนจะไม่เอาผิดทางกฎหมาย แต่หากไม่ให้ความร่วมมือจะถือว่าเข้าข่ายร่วมกันฐานฉ้อโกง
บิณฑ์ กล่าวส่งท้ายว่า ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมจริงและเข้าหลักเกณฑ์แต่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมสามารถดำเนินการติดต่อรับเงินช่วยเหลือได้ โดยให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรองมารับได้ เนื่องจากมีชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนที่น้ำไม่ท่วมจะนำเงินมาคืนให้ซึ่งทางตนจะนำเงินก้อนดังกล่าวมาช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วมจริงๆ ซึ่งภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาให้ชี้ยืนยันในวันนี้เป็นคนเดียวกันกับที่คิดตั้งแต่แรก มีการวางแผนมาก่อนหน้าที่ตนจะมาพื้นที่ยโสธร ตอนแรกตนเข้าใจว่าเขาคือจิตอาสาเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจริงๆ ซึ่งหลอกตนได้แยบยลมาก ทำให้เชื่อถือว่าเขาคือคนที่เป็นจิตอาสาที่เสียสละให้กับสังคม พอตนมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ ก็เสียความรู้สึก เสียกำลังใจ รู้สึกไม่นับถือ จริงๆแล้วผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางคน ก็น่าจะมีความคิดนิดนึง ชาวบ้านไว้ใจเลือกมาทำหน้าที่ แล้วยังมาคิดไม่ดีกับลูกบ้าน หากไม่คิดจะหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง เรื่องมันก็คงไม่เกิดขึ้น.