“แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล ศิลปินแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณี สังคมเข้าใจผิดว่าตน เกี่ยวข้องกับกระแสแบนสินค้าจากสหรัฐอเมริกา หลังแสดงความคิดเห็น 5 ประเด็นวิเคราะห์เพื่อโต้ตอบสหรัฐ กรณีแบน 3 สารพิษ และการนำเข้าผลผลิตการเกษตร
29 ต.ค. 62 แอ๊ด คาราบาว ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมได้รับบทความเตือนมาจาก ศจ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ด้วยความหวังดี เมื่อได้อ่านเเล้วก็หูตาสว่างขึ้น จึงอยากส่งต่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันด้วย นิสัยเราอารมณ์ร้อนของขึ้นง่าย ๆ เลยบางทีก็เผลอไผลตามกระเเสไปกับเขาด้วย 55555 ผมขอย้ำตรงนี้นะครับพี่น้องสื่อมวลชนที่เอาเรื่องผมไปโยงไปลงว่าผมชักชวนคนไทยเเบนสินค้าอเมริกานั้นไม่เป็นความจริงนะครับ
ผมแสดงจุดยืนชัดเจนมาตลอดเรื่องกัญชาเป็นยารักษาโรค กับ ไม่อยากตายผ่อนส่งเพราะสารพิษในการทำเกษตร สาเหตุเพราะกลัวตายกลัวเจ็บป่วยครับ เวลานี้จะกินผักผลไม้เเต่ละครั้งต้องล้างเเล้วล้างอีก แต่พอทราบมาว่าล้างอย่างไรก็ไม่ออกทำให้แทบไม่อยากจะกินเลยถ้าไม่จำเป็น ผมจึงออกมาสู้ 2 เรื่องคือกัญชาเป็นยารักษาโรค และไม่เอาสารพิษ ควบคู่กันไป เเน่นอนครับมันต้องมีอันไปเกี่ยวข้องกับอเมริกาเพราะเขาเป็นต้นตอของทั้งสองเรื่องตามที่ได้ศึกษามาครับ...
จึงขอกราบเรียนมาถึงทุก ๆ ท่านว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องแบนสินค้าอเมริกาอย่างที่เป็นกระเเสครับ แค่โกรธที่เขาเอาเปรียบรังแกประเทศเล็กกว่าอย่างเราเท่านั้นเอง ตามนี้นะครับพี่น้อง เชิญอ่านบทความที่ได้รับมาจาก อ.ธีรวัฒน์ได้เลยครับได้เลยครับ กรณี GSP อย่าตื่นตูมมากไป และ อย่าปั่นกระแสจนเกินเหตุ แล้วพวกที่กระโจนใส่ท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ลืมอะไรไปหรือเปล่า?
1.โดยหลัก ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษ
2.ส่วนกรณีสิทธิด้านแรงงานตามกล่าวนั้น อเมริกาและไทยเจรจากันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2556 ที่สมาพันธ์แรงงานUSAยื่นหนังสือร้องเรียน (ตอนนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์)
3.ส่วนเรื่อง GSP (สิทธิด้านภาษี) เราได้รับสิทธินี้เป็นพิเศษมาตั้งแต่ปี 2519 และเราก็ใช้สิทธินี้อย่างเต็มที่มาเรื่อยๆซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับเป็นพิเศษ
4.การทบทวนเพิ่มหรือลดสิทธิพิเศษทางภาษี GSP เป็นกระบวนการปกติที่มีการเจรจาและทำกันมาอยู่ตลอด (เราได้สิทธิ 3,500 รายการแต่เราใช้เพียง 1,285 รายการเท่านั้นเพราะนอกจากนั้นเราไม่ได้ผลิตหรือไม่ได้ส่งUSA)
5.ต้องแก้ไขข่าวที่สื่อลงนิดหนึ่ง คือ ตัวเลข 40,000 ล้านบาท ที่สื่อฯลงนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกตัดสิทธิ (อันนั้นเป็นตัวเลขโดยรวมของการส่งออกUSAใน 573 รายการ) แต่ตัวเลขที่ถูกตัดคือสิทธิด้านภาษี ก็คือ 61 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,800 ล้านบาทเท่านั้น (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ส่งออกไปUSAต้องจ่ายเป็นภาษีศุลกากรเขาและเป็นกรณีภาษีที่เรายังมีโอกาสในการเจรจาซึ่งมีระยะเวลา 6 เดือนจากนี้ ซึ่งการเจรจานี้ก็เป็นเรื่องปกติสามารถทำได้ตามฟอรัมต่างๆที่เราจะได้เจอเขาโดยเฉพาะในต้นเดือนพย.นี้)
6.มาตรการรองรับจากกระทรวงพาณิชน์ โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ได้ให้นโยบายตั้งแต่ต้นโดยเป็นมาตรการรองรับสงครามการค้าและมาตรการเชิงรุกด้านตัวเลขส่งออกอยู่แล้ว คือ เราเน้นฟื้นตลาดเก่า เพิ่มตลาดใหม่ รุกตลาดยุโรปและอื่นๆ รวมทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย จีน อินเดีย เป็นต้น และเพิ่มมูลค่าทางสินค้าโดยการปรับเปลี่ยนเพิ่มคุณภาพและนวัตกรรมต่อไป
7.ภาพรวมที่ผ่านมา การส่งออกไป USA นั้นไทยเราได้ดุลการค้า ในสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ และกลุ่มอาหาร
#ไม่มีใครนิ่งเฉย #อย่าตกใจจนขย้ำผู้นำประเทศตน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Add Carabao