ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้แจ้ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้ทำหนังสือส่งมอบที่ดิน จำนวน 682 ไร่มาใหม่ เนื่องจากหนังสือเดิม ไม่ได้ระบุวันที่ และได้ระบุเงื่อนขอสงวนสิทธิ์ให้ตัวเองได้รับการจัดสรรก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งตามปกติแล้วหนังสือจะต้องไม่มีเงื่อนไข
วันที่ 9 ธ.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้แจ้ง น.ส.ปารีณา ให้ทำหนังสือส่งมอบที่ดิน จำนวน 682 ไร่มาใหม่ เนื่องจากหนังสือเดิม ไม่ได้ระบุวันที่ และได้ระบุเงื่อนขอสงวนสิทธิ์ให้ตัวเองได้รับการจัดสรรก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งตามปกติแล้วหนังสือจะต้องไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งคุณสมบัติของน.ส.ปารีณาไม่เข้าหลักเกณฑ์เกษตรกร โดยส.ป.ก. ให้เวลา 7 วันในการทำหนังสือใหม่ และเชื่อว่า ไม่กระทบวันขอคืนพื้นที่
ส่วนการดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ส.ป.ก. มีหน้าที่จัดสรรและปฏิรูปที่ดินเท่านั้น ตามที่กรมป่าไม้ได้ส่งมอบที่ดินให้ในปี พ.ศ 2536 ส่งมอบมาเฉพาะที่ดิน แต่ไม่ได้โอนคดีมาให้จัดการด้วย ดังนั้นที่ดินส.ป.ก.ยังอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งกรมป่าไม้สามารถดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ขณะเดียวกันได้ส่งตัวแทนฝ่ายกฎหมายเข้าร่วมประชุมกับกรมป่าไม้ เพื่อที่จะตกลงขอบเขตอำนาจในการดำเนินการร่วมกัน
สำหรับกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นเอกสารต่อกรมป่าไม้ว่า มีนักการเมืองที่ถือครองที่ดินในรูปแบบใบ ภ.บ.ท.5 ที่หนึ่งในนั้นปรากฏรายชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เรื่องนี้ต้องทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้รังวัดทางใหม่ เพื่อยืนยันแนวเขตให้ชัดเจน โดยจะดำเนินการจากเบาไปหาหนักเจรจาเพื่อขอที่ดินคืนก่อนใช้กฎหมายดำเนินการ ยืนยันว่า วิธีการที่ดำเนินการขอที่ดินคืนจากกลุ่มนักการเมือง เป็นมาตรฐานเดียวกันกับชาวบ้าน ไม่ได้ดำเนินการสองมาตรฐานแต่อย่างใด
ทางด้านกรมป่าไม้ วันนี้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เรียกประชุมคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และป่าไม้จังหวัดราชบุรี เพื่อหารือเรื่องอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีกรณีการครอบครองที่ดิน 682 ไร่ ในเขต ส.ป.ก. ของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐโดยตัวแทนจากกรมป่าไม้ ชี้แจงยืนยันว่า ในทางกฎหมาย ส.ป.ก. เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง สามารถร้องขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นเข้าไปตรวจสอบ และแจ้งความร้องทุกข์แทนได้ เพราะว่าที่ดินดังกล่าว กรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้กับส.ป.ก. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536
อย่างไรก็ตามทางกรมป่าไม้ จะทำหนังสือหารือกับสำนักงานราชกฤษฎีกาถึงข้อกฎหมาย ว่า ในกรณีนี้หน่วยงานใดมีอำนาจหน้าที่ และการถือครองก่อนการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินปี 2554 ว่า มีความผิดหรือไม่
นายธีรยุทธ สมตน ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินป่าไม้ ผู้ดูแลการส่งมอบพื้นที่ป่าให้ ส.ป.ก. ไปปฏิรูปที่ดิน อธิบายว่า มติครม.เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2536 และเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 มติตัวนี้เราบอกว่า ให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนฯให้เขตพื้นที่ป่าเศรษฐกิจเสื่อมโทรมให้ ส.ป.ก. ไปดำเนินการปฏิรูปที่ดิน และเราเองได้ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก.ไปทั้งหมด 1,007 ป่า เนื้อที่ประมาณ 42.22 ล้านไร่ ตั้งแต่ปี 2536 ส่งมอบ 26 สิงหาคม 2535 – 20 ธันวาคม 2536 จำนวน 1,700 ป่า อำนาจหน้าที่ของส.ป.ก. จะต้องไปดำเนินการประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน แปลงนี้คือแปลงฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ส.ป.ก.ก็นำไปประกาศเป็นเขตปฏิรูปเมื่อปี 2554 ส.ป.ก.ต้องไปดูว่าพื้นที่ที่เราส่งมอบให้เมื่อปี 2536 ต้องเป็นแปลงที่ราษฎรอยู่อาศัยทำกิน ราษฎรเหล่านี้ก็จะได้สิทธิไป แต่จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศแล้ว ปรากฏว่า พื้นที่บางแปลงยังไม่ทำประโยชน์ เราต้องให้ข้อมูลชัดเจนเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบว่า บุคคลที่มีสิทธิตรงคือใคร คนที่ได้สิทธิตรงนี้ต้องเป็นคนที่ ส.ป.ก. กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ ส่วนจะดำเนินคดีได้หรือไม่ต้องหารือให้เกิดความชัดก่อน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก Workpoint News