ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล เผยแขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดได้อย่างแม่นยำในรอบ 3 วันสามารถผ่าตัดผู้ป่วยที่หมด 7 ราย ทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วยอายุ 35 ปี ที่พบก้อนนิ่วสีดำในถุงน้ำดีถึง 861 ก้อน
วันนี้ (13 ธ.ค. 62 ) มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “Arak Wongworachat” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสต์เรื่องราวหลังโรงพยาบาลสิชล จ.ชลบุรี ได้นำหุ่นยนต์แขนกล มาช่วยในการผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดีโดยใช้การควบคุมด้วยกล้องแทนคน
ในรอบ3วันที่ผ่านมา โรงพยาบาลสิชล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการนำหุ่นยนต์แขนกล มาช่วยในการผ่าตัดโรคนิ่วในถุงน้ำดี โดยใช้ในการควบคุมจับกล้องแทนคน ซึ่งปกติใช้พยาบาลช่วยแพทย์ผ่าตัดในการช่วยถือกล้อง ส่องไปในจุดที่ศัลยแพทย์ต้องการผ่าตัด และหากมีการผ่าตัดใช้เวลานาน การจับกล้อง ควบคุมกล้องด้วยคน จะไม่นิ่งพอ ยิ่งมีการผ่าตัดใช้กล้องแบบ3มิติ ศัลยแพทย์และผู้ช่วย ต้องสวมแว่นตาในการดูภาพ3มิติ จะทำให้เกิดอาการเวียนหัวได้ หากคนจับกล้องมือไม่นิ่ง หรือมีอาการอ่อนล้า ในแต่ละวันจึงผ่าตัดได้น้อยราย
ในรอบ 3 วัน มีการผ่าตัดผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี ทั้งหมด 7 ราย ใช้แขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดด้วยกล้อง 6 ราย ผ่าตัดเปิดทางหน้าท้อง 1 ราย ผลการผ่าตัดทุกรายประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หุ่นยนต์ช่วยทำงานแทนพยาบาลช่วยแพทย์ได้1คน และทำให้การผ่าตัดแม่นยำ มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ในผู้ป่วยทั้งหมด 6 รายจะมีอายุมากกว่า 50 ปี แต่มีผู้ป่วยนิ่วในถุงน้ำดีที่น่าสนใจมากอยู่ 1 ราย เป็นผู้ป่วยหญิงอายุน้อย เพียง35ปีเศษเท่านั้น อาการที่มาพบแพทย์ก็ไม่เหมือนอาการโรคนิ่วโดยทั่วไป หากไม่คิดถึงโรคนี้ไว้บ้างก็ทำให้วินิจฉัยโรคคลาดเคลื่อนไปได้
ผู้ป่วยมาด้วย 5 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการเจ็บหน้าอกด้านซ้ายมาก ปวดร้าวไปด้านหลัง ใจสั่น แน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่เต็มปอด บางครั้งก็จุกแน่นไปหมด บอกตำแหน่งไม่ชัดเจน มีอาเจียนร่วมด้วย กินอาหารก็ปวด อยู่นิ่งๆก็ปวด จึงนอนพักกินยาพาราแก้ปวด พอได้บรรเทาอาการ ต่อมาปวดมากขึ้นจึงรีบมาโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน เมื่อทีมแพทย์ฉุกเฉิน เจออาการผู้ป่วยแบบนี้ ต้องสงสัยไปทางโรคหัวใจก่อนเป็นอันดับแรกความดันปกติ ชีพจรเต้นเร็ว มีการตรวจคลื่นหัวใจ เก็บตัวอย่างเลือดตรวจหาค่าภาวะหัวใจขาดเลือด ทุกอย่างก็ปกติ แต่ผู้ป่วยดูอึดอัด ผุดลุกผุดนั่ง ต้องให้นอนหัวสูง
แพทย์จึงตัดสินใจรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล มีการตรวจติดตามการทำงานของหัวใจ 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวัง พร้อมให้ยาลดกรดในกะเพาะ ยาคลายกังวล ผู้ป่วยอาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังมีอาการท้องอืด เบื่ออาหาร แพทย์จึงส่งไปอัลตราซาวด์ในช่องท้อง ทำให้พบก้อนนิ่วในถุงน้ำดีเป็นจำนวนมาก จึงอธิบายผู้ป่วย ญาติเพื่อวางแผนผ่าตัด ผู้ป่วยกลับไปตัดสินใจ 4 เดือน เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้ได้ เมื่อผ่าตัดก็พบว่าเป็นก้อนนิ่วสีดำใหญ่บ้างเล็กบ้าง เล็กขนาดหัวเข็มหมุดที่เพิ่งก่อตัวก็มีเป็นจำนวนมาก นับได้ถึง 861 เม็ด และถุงน้ำดีมีขนาดโตมาก 15 เซนติเมตร ถึอเป็นผู้ป่วยรายแรก ที่มีอายุน้อยมากที่มีนิ่วในถุงน้ำดีก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก
เป็นกรณีศึกษาในทางการแพทย์และประชาชนทั่วไป โรค ความเจ็บป่วยเกิดได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก “Arak Wongworachat”