เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่เป็นประเด็นดัง สำหรับเหตุการณ์ หญิง วัย 35 ปี ขับรถกระบะชนเสาไฟฟ้า ริมถนนสายสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ทำให้เสาไฟฟ้าจำนวน 15 ต้น ล้มลงมา ทับรถยนต์ของประชาชน อีก 8 คัน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท
ล่าสุด เว็บไซต์ workpointnews รายงานว่า วันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับมารดาของหญิงสาวคนขับรถกระบะและเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่งเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ก่อนวันเกิดเหตุบุตรสาวที่เป็นคนขับได้ไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนและกลับมาดึก จนกระทั่งรุ่งเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. จึงพากันไปเยี่ยมญาติที่เรือนจำคลองด่านจากนั้นมาทราบอีกทีว่ารถเกิดอุบัติเหตุ
จากการสอบถามเพื่อนของบุตรสาวที่ไปด้วยกันเล่าว่า เมื่อออกจากเรือนจำ 4 คนที่นั่งไปด้วยพากันหลับหมดหลือเพียงบุตรสาวที่ขับรถ เมื่อถึงที่เกิดเหตุคาดว่าบุตรสาวจะหลับในจนทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กบางเพจออกมาโจมตีกล่าวร้ายให้กับบุตรสาวและครอบครัวรวมถึงตนเองและในสังคมออนไลน์มีการกล่าวหาและโจมตีกันจำนวนมาก
ในส่วนตนเองที่เป็นมารดายอมรับผิดที่บุตรสาวเป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุในครั้งนี้ แต่ก็ไม่มีใครอยากให้เกิด อีกทั้งเมื่อทราบข่าวว่ามีการประเมินความเสียหายกว่า 10 ล้านบาทนั้น ตนเองมีอาชีพแค่ขายก๋วยเตี๋ยวและตกงาน จึงทำให้ครอบครัวไม่มีรายได้เป็นหลัก ตอนนี้ต้องนำทรัพย์สินในบ้านเท่าที่มี ทั้งพระเครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆ ที่พอจะขายได้รวบรวมเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนเรื่องค่าเสียหายของเสาไฟฟ้าและสายไฟนั้นตนเองและครอบครัวไม่รู้จะหาที่ไหนมาจ่ายเพราะเป็นเพียงครอบครัวจนๆ สุดท้ายก็คงปล่อยให้เป็นการตัดสินของศาลในอนาคต
ส่วนอาการของบุตรสาวนั้นล่าสุดย้ายจากโรงพยาบาลเอกชนมาใช้สิทธิ 30 บาทและยังอยู่ในห้องไอซียู ยังไม่สามารถให้การหรือพูดจาใดๆ ได้ได้แต่พยักหน้าตอบรับ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรุนแรงภายในต้องใช้เวลานานในการรักษาตัว
ทั้งนี้ ตนเองอยากวอนไปยังสังคมโปรดเห็นใจอย่าซ้ำเติมอีกเลย เรื่องที่ไม่ต่อทะเบียน พ.ร.บ.หรือทำประกันภัยนั้น ยอมรับว่าครอบครัวมีปัญหาทางการเงินจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเอาเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายในบ้านแทน
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน แต่ทราบข้อมูลคร่าวๆ ว่ามีผู้เสียหายประมาณ 6-7 รายที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าและเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ส่วนรถยนต์ก็ทั้ง 8 ราย ทั้งนี้ต้องรอผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์พร้อมระบุค่าความเสียหายอีกครั้ง ส่วนข้อหายังคงตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินของหลวงและของผู้อื่นเสียหาย ขับรถโดยไม่ต่อภาษีและ พ.ร.บ.ภาคบังคับ ส่วนจะมีค่าแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกินกว่ากฎหมายกำหนดด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลตรวจเลือดจากทางโรงพยาบาล หากว่ามีเกินกว่ากฎหมายกำหนดก็จะเพิ่มข้อหาเมาแล้วขับทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก workpointnews
