จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ten Top ได้จับได้ว่าภรรยาตนนั้นคบชู้จึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอพร้อมกับข้อความว่า "ให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่พากันหยุด ผมตั้งใจว่าจะหาเงินส่งลูกเรียน แต่กับอีกคนตลอดเวลาที่รู้ 7 เดือนที่สงสัยมา วันนี้คาหนังคาเขาสักทีแค่แกล้งบอกว่าจะกลับบ้าน พาชู้มาห้องเฉยเลยที่นอนยังเปียกอยู่เลย งานนี้ไม่ขออะไรขอแค่ลูกนะครับ จบปิ๊งประตูนรกได้เปิดแล้วผมเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาไปกับผู้หญิงคนนี้ #ยินดีต้อนรับปีใหม่"
ล่าสุด 8 ม.ค. 62 ทีมข่าวช่องวัน 31 ได้เดินทางไปพบกับผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าว คือ นายไพศาล จุทาแสง หรือท็อป อายุ 28 ปี เล่าว่า ตนได้แต่งงานช่วงปี ก.พ. 58 สินสอดแสนกว่าบาท รวมทั้งเงินผูกแขน มอบให้แม่ฝ่ายหญิงหมด มีลูกชายด้วยกัน 1 คนอายุ 3 ขวบ จึงได้ฝากลูกชายไว้กับแม่ช่วยเลี้ยงดูแลไว้ให้ และได้ชวนกันกับภรรยาไปทำงานรับจ้างในบริษัทแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ภรรยาทำหน้าที่ผู้ช่วยเสมียน ส่วนตนทำหน้าที่ช่างเชื่อม
จนเวลาผ่านไป 4 เดือนตนเองสังเกตเห็นภรรยาเปลี่ยนไป ชอบแอบคุยกับชายอื่น เพื่อนร่วมงานก็เตือนให้ระวังเมียมีชู้ ก็สังเกตเมียมาเรื่อยๆ ปรึกษาเพื่อนร่วมงานอยากจับได้คาหนังคาเขา ก็เลยบอกจะกลับบ้านปีใหม่ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วแกล้งเดินทางมาขึ้นรถที่บ้านญาติ ก็โทรถามตลอดว่าถึงไหน และอ้างแบตโทรศัพท์จะหมดต้องปิดเครื่อง พอตกเย็นจึงย้อนกลับมาที่ห้องเช่า ก็เห็นอยู่กับชายชู้จริงๆ ตามอย่างในคลิป ตนคิดว่าความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไร จึงตั้งสติ หากทำอะไรลงไปลูกชายจะอยู่กับใคร
ล่าสุด นายไพศาล บอกว่า ตอนนี้ได้ลาออกจากงานกลับมาพักที่บ้าน ทำสวน และยังยืนยันว่าจะขอเลี้ยงลูกเองไม่ขอให้มาเกี่ยวข้องกันอีก เพราะที่ผ่านมาก็ให้แม่เลี้ยงมาตลอด หากฝ่ายหญิงจะมาเยี่ยมก็มาได้แต่ไม่ให้เอาลูกไปเด็ดขาด เด็กเองก็ไม่ถามหาแม่อยู่แล้ว ยังไงตนก็จะสู้เพื่อลูก ถึงจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็จะสู้เพื่อลูก ส่วนฝ่ายหญิงตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่มีมาขอโทษอะไร มีเพียงไปขอโทษในเฟซบุ๊กผ่านเพจขอโทษปีใหม่ แล้วแท็กตนแค่นั้น ซึ่งหากมาขอโทษก็คงไม่คืนดี เพราะให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว
ขอบคุณข้อมูลบทสัมภาษณ์จาก ข่าวช่องวัน