สำนักข่าวคมชัดลึก รายงานว่า หลังจากสหรัฐฯ ส่งโดรนสังหาร นายพล กอเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน หนึ่งในผู้นำทรงอิทธิพลที่สุดของอิหร่าน ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา
กระทั่งรัฐสภาอิหร่านมีมติว่ากองทัพสหรัฐฯ ตลอดจนเพนตากอนเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ล่าสุด 8 มกราคม 2563 อิหร่านเปิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้สหรัฐฯ แล้ว ส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดเพิ่มขึ้น
ขณะที่ Wild Chronicles - เชษฐา แพร่ภาพสด จาก Irbil, Iraq อัปเดตสถานการณ์ในอิรัก ชี้ เป็นเพียงแค่เหตุการณ์หนึ่งเหมือนที่เคยเกิดขึ้น ไม่ได้หนักหนาสาหัสหรือร้ายแรงอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องตกใจไป ทั้งนี้ ไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายตามที่อิหร่านได้ออกมารายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งการที่อิหร่านรายงานว่ามีตาย 80 คนนั้น เข้าใจว่าเป็น "สงครามข่าวสาร" เชื่อถือไม่ได้ เป็นเพียงการบลัฟฟ
กับข้อสงสัยที่ว่าเมื่อไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขีปนาวุธตกในจุดที่ไม่มีใครเป็นเพราะความผิดพลาดของอิหร่านหรือเปล่า
"ผมเชื่อว่าอิหร่านไม่ได้ยิงพลาด อิหร่านตั้งใจยิงไปในจุดที่มัน เฉียดๆ ไม่โดนคน เท่าไหร่ สาเหตุที่อิหร่านตั้งใจยิงอย่างนั้นเพราะอิหร่านรู้ว่า ถ้ายิงไปแล้วโดนคนตายจริงๆ เนี่ย จะต้องเกิดสงครามกับอเมริกา สงครามกับอเมริกาเนี่ยมันไม่มันสำหรับทั้งอิหร่านและอเมริกาเลย เพราะอิหร่านก็เป็นชาติไม่เล็ก ถ้าสู้กันกับอเมริกาเนี่ย รับรองว่าบาดเจ็บล้มตายมากๆ ทั้งคู่"
แต่การที่อิหร่านต้องยิงและประกาศให้ประชาชนรู้ว่ามีคนตาย 80 คน เป็นเพราะว่าต้องรักษาหน้า ต้องการความนิยมจากประชาชน เป็นการส่งสัญญาณให้อเมริกาฟังว่ายังไม่เอาจริง ถ้าเอาจริงอาจมีคนตายจริงๆ ก็ได้
"แต่ถ้าชั้นทำสิ่งนี้แล้วคุณไม่ตอบโต้ เราสองคนก็จบกัน ชั้นก็ไม่เสียหน้าต่อประชาชนของชั้น คุณก็ไม่เสียหน้าต่อประชาชนของคุณ เราก็จบตรงนี้เถอะ อย่าทำสงครามต่อเลย" ปั๊บ พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ นักเขียนที่เดินทางเข้าไปเพื่อหาข้อมูลเขียนหนังสือเล่มที่ 8 เชื่อว่านี่คือข้อความที่อิหร่านต้องการบอกสหรัฐฯ
ส่วนสหรัฐฯ จะตอบโต้อิหร่านอย่างไร คงต้องติดตามต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก komchadluek
