เกาะติดความคืบหน้าล่าสุด โจรปล้นร้านทองลพบุรี

กลายเป็นข่าวดังที่ประชาชนยังคงให้ความสนใจอยู่ต่อเนื่อง สำหรับเหตุการณ์อุกอาจที่คนร้ายได้ทำการกราดยิงพร้อมบุกปล้นร้านทองกลางห้างดังใน จ.ลพบุรี

สืบเนื่องจากวันที่ 9 ม.ค. เวลา 20.30 น. ณ ห้างดัง ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ ทำให้มีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและสิ้นชีพ และแน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนต่างให้ความสนใจ และพากันติดตามข้อมูลหวังจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น แอดมินจามจึงขอพาทุกคนไปเกาะติดสถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุดของเหตุการณ์นี้กันค่ะ

อันดับ 1

คนร้ายได้ก่อเหตุขึ้นในเวลา 20.30 น. ก่อนจะหลบหนีออกจากห้างดังภายในเวลา 20.47 นาที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็คาดว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางหนองโดน สระบุรี ท่าวุ้งลพบุรี ท่าเรืออยุธยา ในการหลบหนี

อันดับ 2

ได้มีการตั้งค่าหัวคนร้ายกันเกิดขึ้น โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้ระบุว่า กรณีที่มีผู้แจ้งเบาะแสคนร้ายจนสามารถไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ จะขอมอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 100,000 บาท

อันดับ 3

เวลาประมาณ 12.15 น. ของวันที่ 10 ม.ค. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ได้ออกมาระบุว่า คนร้ายสูง 166 เซนติเมตร และได้พุ่งเป้าไปที่นักแม่นปืน มีการฝึกซ้อมยิงปืนมามาก ต้องเคยมาดูลาดเลาที่ร้านทองก่อนลงมือก่อเหตุแน่นอน

อันดับ 4

จากที่ในตอนแรกนั้นมีการตั้งค่าหัวไว้ที่ 100,000 บาท แต่ภายหลังได้มีการขยับขึ้นเป็น 245,000 บาท โดยเป็นการลงขันจากหน่วยงานตำรวจ และประชาชนผู้ที่ขอร่วมสมทบทุน แค่นั้นยังไม่พอเจ้าของร้านทองที่ถูกชิงทรัพย์ ได้ประกาศให้รางวัลนำจับคนร้ายอีก 100,000 บาท ทำให้ยอดเงินค่าหัวโจรรายนี้เป็น 345,000 บาท

อันดับ 5

เวลาประมาณ 18.20 น. ของวันที่ 10 ม.ค. ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้าการติดตามคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยลักษณะสำคัญที่วอนขอให้ประชาชนช่วยสังเกตบุคคลดังนี้ ถ้าพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ 1.ชายสูงตั้งแต่ 166 เซนติเมตรขึ้นไป,  2.ใช้รถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวแดง, 3.ลักษณะการเดินจะเดินแบบกะเผลกๆ นิดหน่อย, 4.รูปร่าง ผอม สูง เพรียว และเดินแบบโหย่งๆ ด้วย, 5.ตำหนิทองมีตัวอักษร 'อนันต์ 96.5%K' / 'aurora'

อันดับ 6

ณ ตอนนี้หลายฝ่ายก็ยังคงติดตามเบาะแสการนำไปสู่การจับตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่าก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคนผิดก็ต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก komchadluek ejan Workpoint News