PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เทียบได้ว่ามีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ เล็กจนขนจมูกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถกรองได้ ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษรายงานว่าฝุ่นPM2.5 ในเช้านี้อยู่ที่ 44 – 93 มคก./ลบ.ม. ขณะที่ Airvisual Earth (ดัชนีคุณภาพอากาศโลก) วัดได้ 87.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์มตร
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (19 ม.ค.63) กรมควบคุมมลพิษ รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ จากผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 54 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 44 – 93 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) โดยปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่เมื่อเทียบกับเช้าของเมื่อวาน
โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 46 พื้นที่ และพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 พื้นที่ (พื้นที่สีแดง) ได้แก่ ริมถนนสามเสน เขตพระนคร ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ คพ.ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่ง งดใช้รถควันดำอย่างเด็ดขาด และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชน
ขณะที่เว็บไซต์ Airvisual Earth (ดัชนีคุณภาพอากาศโลก) รายงานว่า ค่าฝุ่นPM 2.5 ของประเทศไทยประจำวันที่ 19 ม.ค. 63 สภาพอากาศโดยทั่วไป ของกรุงเทพมหานคร ตามมาตรฐาน US AQI อยู่ที่ 168 (ค่า PM 2.5 คือ 87.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์มตร ) ติดอันดับที่ 8 เมืองที่มีสภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก
มลพิษของกรุงเทพฯมาจากไหน มลพิษในกรุงเทพฯส่วนใหญ่มาจากควันยานพาหนะการก่อสร้างโรงงานและการเผาขยะฯ จึงทำให้อากาศนั้นมีมลพิษเพิ่มขึ้น สภาพอากาศแย่ลง มีผลกระทบต่อเด็ก คนชรา และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ , Airvisual Earth