นายอนุทิน ชี้ พบผู้ป่วยเพิ่ม 6 รายมาจากจีน อีก 3 รายอาการหายแล้วเช่นกันเพียงรอการตรวจยืนยันและให้คณะกรรมการตรวจสอบซ้ำจึงจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ผู้ป่วยทุกคนมีประวัติโยงไปถึงอู่ฮั่นได้ ประเมินการแพร่ระบาดอาจนานถึง 6 เดือน ยืนยันยังเอาอยู่ ขอกำลังใจ อย่าว่ากล่าวกันอย่างไม่สร้างสรรค์ แนะนำได้ ตำหนิได้ แต่ควรเสนอแนะอย่างมีเหตุผล ตอนนี้งบประมาณเรายังเพียงพอ
วันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยว่า การพบผู้ป่วยเพิ่ม 6 ราย มาจากจากการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นโดยผลตรวจเมื่อวานยืนยันพบว่าติดเชื้อ ทั้งหมดมาจากคณะทัวร์เดียวกันและเข้าไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอง โดยไกด์พาไป
ส่วนผู้ป่วย 8 รายแรกหายแล้ว โดย 3 รายกลับบ้านไปแล้ว อีก 2 รายคนไข้อยากกลับรอให้มีเครื่องบินกลับอู่ฮั่น และอีก 3 รายอาการหายแล้วเช่นกันเพียงรอการตรวจยืนยันและให้คณะกรรมการตรวจสอบซ้ำจึงจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้
ผู้ป่วยทุกคนมีประวัติโยงไปถึงอู่ฮั่นได้ ถือว่าอยู่ในกรอบควบคุมการระบาดของโรค แต่ต้องเรียนว่ายิ่งเราตรวจก็จะยิ่งเจอนี่เป็นหลักสากล เราไม่สามารถห้ามผู้ป่วยให้เดินทางไปไหนได้ และระหว่างเดินทางเขาอาจจะยังไม่แสดงอาการ แต่เรายังเชื่อมั่นว่า เชื้อโคโรนาไวรัส 2019 การแสดงความรุนแรงยังไม่เท่ากับไวรัสซาร์สหรือเมอร์ส
เมื่อสอบถามถึงการประเมินระยะเวลาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 นายอนุทิน ตอบว่า ตนสอบถามเรื่องนี้กับผู้ทรงคุณวุฒิ ท่านแจ้งว่าเราวางยาวๆ ไว้ 6 เดือนก่อน เพราะตอนซาร์สกับเมอร์สก็ 9 เดือน แต่กรณีอู่ฮั่น ประเทศจีนก็ทำอย่างเข้มข้นและมีการปิดเมือง เชื่อว่าจะส่งผลต่อการควบคุมโรคในประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ผมต้องเรียนย้ำนะครับ เราไม่ได้วัดว่า การพบคนป่วยมากๆ เป็นความล้มเหลวนะครับ ในทางการแพทย์ยิ่งพบคนป่วย เท่ากับเป็นการยืนยันประสิทธิภาพในการหาคนป่วยเจอ ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรักษาไม่ได้ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไม่ได้ ไม่รู้ว่าใครอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้ทุกรายเราทราบว่าอยู่ที่ไหนหมด"
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขเอาอยู่ ตนกับทีมงานเป็นหนึ่งเดียวกันทำงานด้วยกันด้วยความเข้าใจ ยังมั่นใจว่ายังสามารถรักษาสถานการณ์นี้ได้
ขอกำลังใจ อย่าว่ากล่าวกันอย่างไม่สร้างสรรค์ แนะนำได้ ตำหนิได้ แต่ควรเสนอแนะอย่างมีเหตุผล เราพร้อมทำตาม เช่น มีคนแนะนำว่าทำไมไม่คิดถึงหัวอกคนจีนไปไหนคนก็วิ่งหนี ทำไมไม่เอาหน้ากากไปแจก ตนก็สั่งการทันทีให้ไปแจกทันทีที่เขาเข้าเมือง
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา เรารักษาคนจีนด้วยมนุษยธรรม การรักษาเขาก็เพื่อไม่ให้แพร่ต่อ บางทีก็มีต้นทุนเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นกระทรวงที่ต้องดูแลสุขภาพของคนที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะคนไทย ถ้าเราเจอใครป่วยต้องรักษา เรื่องค่าใช้จ่ายถ้าเรียกเก็บได้ก็เก็บ ถ้าเก็บไม่ได้ก็ถือเป็นต้นทุนที่เราทำให้คนไข้ไม่ไปเพ่นพ่านแพร่ระบาดโรคให้กับคนในประเทศเรา ตอนนี้งบประมาณเรายังเพียงพอ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก WorkpointNews