จากกรณีค้นหายีราฟของสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ยุติลงแล้วเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 มกราคม 63) หลังพบซากยีราฟอายุประมาณ 4 ปี จมอยู่คูน้ำหน้าโรงแรมซันไรส์ ลากูน ริมถนนสาย 304 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดสัตวแพทย์ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ยีราฟเสียชีวิตจาก น้ำท่วมปอด ไม่เกี่ยวกับฤทธิ์ยาสลบ
วันนี้ (31 ม.ค. 63) ที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ น.สพ.อนุวัฒน์ วัฒนนรเศรษฐ์ สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ เปิดเผยถึงสาเหตุการตายของยีราฟว่า จากการผ่าพิสูจน์ซากยีราฟแล้วพบว่า มีน้ำท่วมปอดจำนวนมาก เนื่องจากยีราฟจมน้ำเป็นเวลานาน และคาดว่าตายมาแล้ว 2 วัน ทั้งนี้ไม่มีภาวะโรคอื่นๆ ที่ทำให้ยีราฟตาย
ส่วนเรื่องฤทธิ์ของยาสลบที่หลายคนคาดว่าเป็นสาเหตุหลักในการตายของยีราฟ น.สพ.อนุวัฒน์ เปิดเผยว่า ตามจริงแล้วยาที่ยิงไปนั้นเป็นเพียงยาสลบอ่อนๆ ทำให้มีอาการซึมเท่านั้น จึงไม่น่าจะใช้สาเหตุหลักที่ทำให้ยีราฟสลบแล้วจมลงในคูน้ำได้ ขอยืนยันว่ายีราฟตายเพราะจมน้ำแล้วน้ำท่วมปอดจนตาย เนื่องจากยีราฟเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถว่ายน้ำได้
ด้านนายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซาฟารีเวิลด์ เปิดเผยถึงการขนย้ายยีราฟจากประเทศแอฟริกามาที่ประเทศไทย ว่า ก่อนจะซื้อตัวยีราฟทั้ง 78 ตัวมานั้น ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจโรคทางสัตว์มาเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขนสัตว์เข้าประเทศได้ ยืนยันว่ายีราฟตัวที่ตายไม่มีโรคติดตัวมาแน่นอน
ส่วนสาเหตุที่ยีราฟหลุดออกจากกรงท้ายรถบรรทุกนั้น น่าจะเกิดจากกลอนประตู หรือน็อตบางตัวหลุดออก จึงทำให้ประตูกรงเปิดออก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะชีวิตสัตว์และแรงของคนที่ตามหาตลอดเวลา 3 วันนั้น เงินไม่สามารถซื้อมาได้ จึงขอสงวนการเปิดเผยถึงมูลค่าความเสียหายครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณประชาชนและคนที่คอยช่วยเหลือในการตามหายีราฟ และรู้สึกเศร้าใจที่ยีราฟตัวดังกล่าวตาย ขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ฝังซากยีราฟไว้ที่บริเวณหนึ่งในสวนสัตว์ซาฟารีเวิล์ด ที่ จ.ปราจีนบุรี
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน