ยังคงเป็นเรื่องราว ที่ต้องติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด เว็บไซต์ ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019
โดยล่าสุดพบข้อมูลทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 11,374 คน เสียขีวิต 259 คน จำนวนผู้หายเป็นปกติแล้ว 252 คน ส่วนในประเทศไทย ผู้ติดเชื้อ 19 คน รักษาในโรงพยาบาล 12 คน กลับบ้านได้แล้ว 7 คน ส่วนที่ยังต้องสอบสวนอาการมีทั้งหมด 344 คน ทั้งคนไทยและคนจีน ผลเป็นลบและกลับบ้านแล้ว 70 คน เหลือเฝ้าระวัง 274 คน
นายแพทย์ธนรักษ์ ยอมรับว่า พบผู้ที่เข้าข่ายต้องสอบสวนโรคเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขยกระดับการเฝ้าระวังจากเดิมเน้นตรวจคัดกรองชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น แต่ได้เพิ่มการคัดกรองกลุ่มคนไทยและคนจีนที่มาจากเมืองอื่นด้วย ส่วนความคืบการการช่วยเหลือคนไทยที่ติดค้างในเมืองอู่ฮั่น นั้นไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่ชัดได้เพราะต้องหารือกับหลายฝ่าย เบื้องต้นไม่พบคนที่เมืองอู่ฮั่นติดเชื้อ พร้อมยืนยันไทยยังมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคเพราะยังคงเปิดรับนักท่องเทั่ยวเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งทางสาธารสุขได้เสนอไปยังรัฐบาลถึงความเสี่ยงดังกล่าวแล้ว
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนโรคกับคนขับรถแท็กซี่ที่ติดเชื้อในประเทศรายแรก ยังไม่สามารถระบุได้ว่ารับผู้โดยสารจากไหนไปไหน และไม่ชัดเจนว่าเป็นการรับเชื้อจาดการสัมผัสหรือระบบทางเดินหายใจ เบื้องต้นได้ติดตามบุคคลใกล้ชิดคนขับแท็กซี่จำนวน 13 คน มาตรวจสอบแล้วไม่พบเชื้อ แต่ต้องกักตัว 14 วันไว้ก่อน
ทั้งนี้ ยังได้แนะนำผู้ให้บริการรถสาธารณะว่าควรจะต้องสวมใส่หน้ากาอนามัยทุกครั้ง เพราะภายในรถถือเป็นพื้นที่ปิดมีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกันให้หมั่นเช็ดทำความสะอาดรถและล้างมือบ่อยๆ
ส่วนการที่องค์การอนามัยโลกประกาศสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินโลก นั้น ไทยไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นการประกาศเพื่อให้เป็นบริหารจัดการภายในขององค์กรและการสนับสนุนการช่วยเหลือในแต่ละประเทศ อีกทั้งหากประชาชนสงสัยหากจะขอตรวจหาเชื้อในร่างกายนั้น หากเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น สัมผัส หรือ ทำงานร่วมกับบุคคลที่มีความเสี่ยงก็สามารถตรวจได้ฟรี.
ขอบคุณข้อมูลจาก one31