จากกรณีของผู้ใช้บัญชี “หลานของผม” (@LovePhrik) และได้โพสต์คลิปหลานของตัวเอง เพื่อที่จะให้ได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการรวบเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวแล้ว
โดยทาง komchadluek.net ได้เผยข้อมูลว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 พลตำรวจโท จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีครอบครัวและป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) หรือ ไทแคค พร้อมตำรวจ สน.บางยี่เรือ และสถานีภูธร จังหวัดระยอง
ร่วมแถลงการจับกุม นายชัยวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวจันทบุรี พนักงานวางระบบคอมพิวเตอร์บริษัทแห่งหนึ่ง เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ “หลานของผม” (@LovePhrik) โดยอ้างว่า บุคคลในคลิปที่โพสต์ไว้ในโลกออนไลน์เป็นหลานสาวของตน แต่จากการสอบสวนนายชัยวัฒน์อ้างว่าคลิปที่ปรากฏ ถ่ายเล่นกับแฟนสาวซึ่งอายุ 20 ปี โดยแฟนสาวไม่ทราบเรื่อง พร้อมให้การว่า ที่ทำไปเพราะอยากให้มีคนติดตามทวิตเตอร์ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ไทแคค ยังจับกุม นายเอกกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร อาชีพขับแกร็บคาร์ ตกเป็นผู้ต้องหา หลังเป็นผู้ก๊อบปี้คลิปวิดีโอจากทวิตเตอร์ “หลานของผม” ตัวจริง ก่อนสวมรอยนำคลิปวิดีโอและข้อความต้นฉบับมาเผยแพร่ต่อในแอคเคานท์ทวิตเตอร์ของตัวเอง (@Larnkhongpom) โดยรับสารภาพกระทำเพราะรู้สึกชื่นชอบเนื้อหาลักษณะดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่านายเอกกมลยังครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กอีกเป็นจำนวนมาก และเปิดทวิตเตอร์ ชื่อ PornKUB_Dekdee63 ที่มีลักษณะประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วย รวมถึงยังเปิดกลุ่มไลน์ชื่อว่า “เอาไว้ดู” ทำการชักชวนให้สมาชิกเข้าไลน์กลุ่ม โดยเสียค่าสมัคร 300 บาท
ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ครอบครอง , ค้าหรือประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ระวางโทษจำคุก 3 - 10 ปี ปรับ 6 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และข้อหาซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก komchadluek.net