กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) บุกจับนายจ้างร้านอะไหล่รถยนต์ ย่านอ้อมน้อยใช้กำลังประทุษร้ายหน่วงเหนี่ยวกักขัง , รับคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานฯ โดยเด็กถูกกักตัวมานานกว่า 9 ปี
28 ก.พ. 63 ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน , พ.ต.ท.พงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง สว.กก.5 บก.ปคม. นำกำลังเข้าจับกุม นายสุชิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี และ นางจิรวดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 ม.12 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในข้อหา "ค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหน่วงเหนี่ยวกักขัง , รับคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานฯ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำประการใดให้ผู้อื่นปราศจากสิทธิเสรีภาพฯ"
พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเด็กสาวชาวลาวถูกนายจ้างกักขังบังคับใช้แรงงานอยู่ภายในร้านขายอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง ย่านอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน โดยเด็กถูกกักตัวมานานกว่า 9 ปี จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้น พบตัวผู้ต้องหาและตัวเด็กสาวชาวลาวคือ น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ภายในร้านดังกล่าว
เบื้องต้นจากการซักถามผู้เสียหายให้การว่า ตนมาอยู่กับนายจ้างคนดังกล่าวผ่านนายหน้าชาวลาว ตั้งแต่ปี 2554 ตอนนั้นอายุแค่ 13 ปี ช่วงแรกๆก็จะได้ค่าจ้างเดือนละ 1,500 บาท ต่อมาก็ไม่เคยได้เงินเดือนจากนายจ้างอีกเลย ซ้ำยังถูกบังคับให้อยู่แต่ภายในห้องเก็บของ โดยมีอาหารและเสื้อผ้าที่นายจ้างจัดไว้ให้ แต่ไม่เคยได้ออกไปไหนมาไหน เพราะนายจ้างสั่งห้ามคุยและห้ามติดต่อกับใครอีกด้วย
น.ส.พร ให้การอีกว่า หลังจากทำงานอยู่ได้ไม่นาน ก็เริ่มถูกทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า ตีด้วยไม้กวาดและสายไฟ บางครั้งก็ยังถูกด่าทอด้วยคำหยาบคายอยู่ตลอดหากนายจ้างไม่พอใจ เช่น ไปหยิบของในร้านมาให้ลูกค้าผิด หรือไปหยิบช้า กระทั่งวันหนึ่งตนได้พยายามวิ่งหนีออกมาจากร้าน แต่ก็ถูกจับตัวกลับไปอีก โดยนายจ้างบอกกับคนข้างนอกว่า ตนเป็นคนสติไม่ดี
น.ส.พร ให้การต่ออีกด้วยว่า เมื่อถูกพาตัวกลับมาถึงร้านก็ถูกทำร้าย เอาเท้าเหยียบที่ใบหน้าบ้าง ไม้ตีบ้าง ขังให้อยู่ในห้อง จนตนเองไม่อยากอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่มาทำงานเมื่อปี 2554 จนถึงปี 2559 ไม่เคยมีวันหยุดพักเลย เพิ่งจะเริ่มมีวันหยุดก็หลังปี 2559 เป็นต้นมา โดยมีวันหยุดให้แค่วันอาทิตย์ 1 วัน แต่นายจ้างก็ไม่ให้ออกไปไหน ยิ่งช่วงเทศกาลนายจ้างก็จะทิ้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอาไว้ให้กินและให้อยู่แต่ในห้อง ออกไปไหนไม่ได้ เพราะนายจ้างจะล๊อคประตูร้านเอาไว้ จนได้รับการช่วยเหลือจากพลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาสองผัวเมียยังให้การปฏิเสธ จึงแจ้งข้อหานำตัวส่ง สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คมชัดลึก