สืบเนื่องจากกรณีของข่าวลือ การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ในไทย จนทำให้กลุ่มประชาชนบางส่วนเริ่มกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค ล่าสุด เว็บไซต์ workpointnews รายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค
เพื่อเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ โควิด-19 มีผู้เข้าร่วมประชุมจาก 9 สมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและยา , ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค 22 ราย และห้างสรรพสินค้า 6 ราย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรมการค้าภายในเชิญผู้ประกอบการมาหารือเพื่อติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภค โดยรับทราบข้อมูลจากผู้ผลิตในภาพรวมว่า ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ร้อยละ 70 ของกำลังการผลิต ซึ่งยังสามารถเพิ่มได้อีกร้อยละ 30
ดร.ระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกผู้ประกอบการข้าวถุงไทยรายงานว่า เราสามารถผลิตข้าวถุงป้อนให้กับตลาดได้ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าข้าวสารจะไม่ขาด
นางณัฏฐินี เนตรอำไพ ผู้จัดการอาวุโสส่วนองค์กรและสื่อมวลชนสัมพันธ์บริษัทยูนิลิเวอร์ รายงานว่าอยากให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าอาหารสำเร็จรูป รวมทั้งของสบู่น้ำยาซักผ้าหรือสินค้าที่จำเป็นสำหรับการฆ่าเชื้อทางยูนิลิเวอร์ได้เตรียมพร้อมในการขยายการผลิตเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนเรียบร้อยแล้ว
นางพิชชาภรณ์ อาชชวงศ์ทิพย์ สมาคมผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูปแจ้งว่า ปัจจุบันยังมีกำลังการผลิตเหลืออยู่อีกร้อยละ 30 ประชาชนจึงไม่ต้องเป็นห่วงถึงปัญหาการขาดแคลนอาหาร
ดร.สัมฤทธิ์ ยิบยินธรรม บริษัท ริเวอร์ โปร พัลพ์แอนด์เปเปอร์ ผู้ผลิตกระดาษชำระรายงานว่า ความสามารถในการผลิตกระดาษชำระของประเทศไทยยังมีเพียงพอ ดังนั้นการขาดแคลนจึงยังไม่น่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ส่วนที่เห็นว่าสินค้ามีการพร่องไปจากชั้นวางของเนื่องจากกระดาษชำระใช้เนื้อที่ในการวางเยอะหากทางห้างเติมสินค้าไม่ทันอาจจะดูเหมือนของขาดแต่ในความเป็นจริงยังมีปริมาณเหลือเฟือ
ดร.ฉัตรชัย ดวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมค้าปลีกไทย รายงานว่า ร้านค้าปลีกไทยยืนยันว่าสินค้ายังไม่ขาดตอนและยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกทำให้การขาดแคลนเหมือนช่วงน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ยังไม่น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากเราไม่ได้ประสบกับปัญหาการขนส่งจึงเชื่อว่าสินค้าสามารถถูกขนส่งมายังมือพี่น้องประชาชนได้อย่างไม่มีปัญหาซึ่ง ขณะนี้สินค้าก็ยังมีพร้อมโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคตามบ้าน ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึง กรณีหน้ากากอนามัยว่า ยืนยันว่าจากกำลังการผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน สถานพยาบาลทั่วประเทศทุกประเภทจะได้รับการจัดสรรวันละ 700,000 ชิ้น โดยกระจายไปองค์การเภสัชกรรม 430,000 ชิ้น สถานพยาบาลเอกชน 140,000 ชิ้น โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัย เช่น โรงพยาบาลศิริราชรามาธิบดี 60,000 ชิ้นและโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 70,000 ชิ้นรวมแล้วเป็น 700,000 ชิ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก workpointnews