จากกรณีอื้อฉาวของคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส ได้กักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศจนทำให้มีประชาชนเข้ามาร้องเรียน ทางด้าน นายสิระ ชี้ ไม่ว่าจะเป็นนักกาเมืองคนใด หรือใครก็ตามถ้าหากทำผิดขอให้ฉีกหน้ากากออกมา และเรื่องนี้ตนต้องติดตามแน่นอน
9 มี.ค. 63 จากเหตุการณ์เพจแหม่มโพธิ์ดำ เปิดหลักฐานโยงกลุ่มกักตุนหน้ากากส่งออกต่างประเทศ ชี้เป็นหนุ่มใหญ่ที่ปรึกษารัฐมนตรี โดยอาจมีการส่งหน้ากาก “นับร้อยล้านชิ้น” ให้กับนายทุนจีน ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนหน้ากากทางตลาด จนทางด้านแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ แม้แต่ประชาชนทุกคนแทบจะหาหน้ากากมาสวมใส่เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ไม่ได้
ทางด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวถึงกรณีอื้อฉาวกักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ของผู้ติดตามใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ความว่า "อยากบอกว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ไม่ว่าจะระดับไหนหรือจะเป็นรัฐมนตรี ถ้าหากเกี่ยวข้องขอให้จัดการให้สิ้นซากไปเลย เพราะตอนนี้ประชาชนมีปัญหา เดือดร้อนอย่างหนัก อย่างเช่นผมเสียสละเอาเงินไปซื้อหน้ากากเพื่อประชาชน ยังโดนเอาเปรียบ ยังโดนหน้ากากไม่มีคุณภาพ ถ้าหากพบผู้เกี่ยวข้องที่เป็นนักการเมืองขอให้ฉีกหน้ากากของนักการเมืองคนนั้นออกมา ต้องรับผิดชอบและเรื่องนี้ผมต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านต้องฉีกหน้ากากออกมาให้ได้
นักข่าวได้สอบถามอีกว่ากรณีที่ นายสิระ พูดออกไปเมื่อสักครู่เป็นกรณีที่เกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัยที่คนใกล้ชิดรัฐมนตรีกักตุนไว้หรือไม่ "นายสิระ" ตอบกลับว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ และถ้าหากเห็นเป็นกรณีอื่นขอให้ฉีกหน้ากาก ออกมาให้ได้ว่านักการเมืองเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือผู้ติดตามเกี่ยวข้องหรือไม่เพราะว่าการแต่งตั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ ต้องกลั่นกรองไว้ก่อน ว่าบุคคลที่เราใกล้ชิดเนี่ยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือเปล่า ทำธุรกิจถูกต้องหรือไม่ จะบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็นไม่ได้ เพราะมีบัตรที่เกี่ยวข้องกับคณะรัฐมนตรี หรือแม้แต่ ส.ส.เอง
ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวว่า “ในยามที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ยังทำพฤติกรรมนี้อีก ตนรับไม่ได้และไม่เชื่อว่าจะกักตุนหน้ากากไว้ถึง 200 ล้านชิ้น เชื่อว่าขี้โม้มากกว่า แต่หากมีจริงตนได้ส่งคนไปตรวจสอบทางลับเพื่อตัดวงจรอุบาทว์นี้แล้ว” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเฟสบุ๊ก นายศรสุวีร์ พบว่า ที่ผ่านมามีการโพสต์ด่ารัฐบาลมาโดยตลอด แล้วทำไมถึงมีการนำภาพมาโพสต์ในลักษณะนี้ หวังผลอย่างหรือไม่ซึ่งตนไม่อยากจะคิด แต่หากพบว่ามีการกระทำเพื่อหวังจะล้มล้างรัฐบาลตนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การออกมาโจมตีในครั้งนี้นั้นมองว่ามีการหวังผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส ได้คะแนนน้อยที่สุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ตนทำงานไม่ใช่เล่นเกมการเมือง หากวันหนึ่งประชาชนเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็พร้อมจะลาออกทันที ส่วนคะแนนที่ตนได้นั้นถือว่าไม่น้อย เพราะหากได้คะแนนเสียงจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ครบ 5 เสียง จะถือว่าเป็นเรื่องแปลก
ขอบคุณภาพและข้อมูลสัมภาพ ร.อ.ธรรมนัส จาก WorkpointNews