ต้องทำลายทิ้ง​ กำจัดให้ไม่เหลือซาก​ มะพร้าวเถื่อนตัวปัญหา​

เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ ทำลายมะพร้าวเถื่อนที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด 26 ตัน มะพร้าวนำเข้าจากอินโดนีเซีย ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อไปส่งยังโรงงานแปรรูปกะทิกล่อง เนื่องจากราคาถูกกว่ามะพร้าวในประเทศ จึงมีการแอบลักลอบผ่านชายแดน

วันที่ 12 มี.ค. ที่สถานีพัฒนาที่ดิน ต.บ่อนอก อ.เมืองจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ นำมะพร้าวที่ลักลอบการขนส่งผ่านพิธีการทางศุลกากรผ่านช่องทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนทั้งหมด 26 ตัน มาเตรียมทำลาย ทั้งหมดยึดได้จากรถบรรทุกสิบสองล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 71-1611 เพชรบุรี 13.5 ตัน จับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก และรถสิบล้อยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 70-5728 นครปฐม จับกุมได้ที่ถนนเพชรเกษม ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นรถบรรทุกมีมะพร้าวปอกเปลือกจำนวน 12.5 ตัน

จากการสอบสวนพบว่ารถบรรทุกทั้งสองคัน มีนายทุนว่าจ้างให้ไปบรรทุกมะพร้าวนำเข้าจากอินโดนีเซีย ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อไปส่งยังโรงงานแปรรูปกะทิกล่อง เนื่องจากราคาถูกกว่ามะพร้าวในประเทศ จึงมีการแอบลักลอบผ่านชายแดน สำหรับมะพร้าวเป็นพืชที่ถูกประกาศให้เป็นสินค้าที่มีมาตรการควบคุมการนำเข้าและต้องขออนุญาตเคลื่อนย้าย การนำเข้าสินค้าเกษตรเข้ามาในราชอาณาจักรไทย รัฐบาลกำหนดให้นำเข้าได้เพียง 2 ด่าน เท่านั้น คือ ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง

ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มะพร้าวเป็นสินค้าต้องปฏิบัติตาม มาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 และแจ้งการนำเข้า เพื่อสุ่มตรวจจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพและด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง หากนำเข้าด่านอื่นๆ ถือว่าเป็นการลักลอบนำเข้า โดยผิดกฎหมาย และจากการตรวจความงอกของมะพร้าว จากด่านกักกันพืชประจวบคีรีขันธ์ พบว่ามีการงอกของหน่อหรือยอดอ่อนมะพร้าว ซึ่งผิดระเบียบการนำเข้า เจ้าหน้าที่จึงนำมะพร้าวทั้งหมด ทำลายด้วยการผังดินในหลุมขนาดความยาว 16 เมตร กว้าง 4 เมตร ลึก 2.5 เมตร และโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อ

ขอบคุณข้อมูลจาก Workpoint

ขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก pixabay