ณ จากที่เราได้เห็นข่าวแล้วว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แทนที่ประเทศจีนแล้ว ทำให้ตอนนี้นานาประเทศกลุ่มเสี่ยงตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างหนัก กรูกันซื้อของตุนมากมาย
สำนักข่าว DailyMail รายงานสถานการณ์ประเทศแถบยุโรป หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นศูนย์กลางแพร่ระบาด ส่งผลให้ประชาชนในประเทศกลุ่มเสี่ยงพากันหวาดวิตกอย่างหนัก แห่กันไปซื้อของในซูเปอร์กักตุนเอาไว้จนเกิดการลงไม้ลงมือแย่งชิงของกัน โดยในโซเชียลมิเดียได้ปรากฏคลิปความโกลาหลวุ่นวายที่อ้างว่ามาจากซูเปอร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์กและจอเจียร์ ที่ให้หวาดกลัวต่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก
โดยในคลิปชวนหดหู่ใจนี้เผยให้เห็นประชาชนชาวอเมริกันเข้ายื้อแย่งสิ่งของเครื่องใช้กันมากมาย ถึงขนาดลงไม้ลงมือใส่กันเพื่อให้ได้มาซึ่งของที่ต้องการ ส่วนอีกแห่งหนึ่งเกิดขึ้นที่บรูคลินเผยให้เห็นพนักงานขายเข้ามาอ้อนวอนร้องขอให้สองลูกค้าหยุดการทะเลาะกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สถานีตำรวจทั้งหลายในเมืองต้องวุ่นวายออกมาห้ามปรามการจลาจลขนาดย่อมนี้ อันเนื่องมาจากความหวาดกลัวต่อไวรัสโควิด-19 โดยสินค้าประเภทน้ำดื่มเป็นสิ่งของหายากอันดับแรกจนทำให้หลายคนลงมือใส่กัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางตำรวจได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเพื่อไม่ให้เป็นการสร้างความหวาดวิตกอย่างเป็นวงกว้างว่า "แม้ว่าจะปรากฏข่าวลือมากมายก็ตาม ทางเราขอยืนยันว่าไม่พบหลักฐานใดๆที่ชี้แจงให้เห็นว่าสาเหตุของการจลาจลในครั้งนี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนนำมาซึ่งความโกลาหลในการที่จะกักตุนสิ่งของจำพวกน้ำดื่ม กระดาษชำระ เจลล้างมือและอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงเหตุจลาจลในครั้งนี้ไม่พบการใช้อาวุธเช่นมีดหรือปืนแต่อย่างใด"
อีกหนึ่งหลักฐานที่ทางตำรวจชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นั่นคือเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนที่ทางนิวยอร์กจะประกาศภาวะฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามทางการก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว และพร้อมยกระดับการจัดการกับเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้อย่างเต็มที่...
ขอบคุณข้อมูลจาก: DailyMail
