กลายเป็นประเด็นดัง ที่คนญี่ปุ่นออกมาวิจารณ์ เมื่อล่าสุด เว็บไซต์ ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายฮิโรยูกิ โมโรตะ สมาชิกสภาจังหวัดชิซุโอกะ ของญี่ปุ่น ออกมาแถลงขอโทษต่อสื่อมวลชน กรณีที่เขาประมูลขายหน้ากากอนามัย ผ่านเว็บไซต์ประมูลออนไลน์
และได้เงินไปถึง 8.9 ล้านเยน หรือกว่า 2.8 ล้านบาท ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จากการที่เขาหากำไรด้วยการขายหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ท่ามกลางภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยที่กำลังเกิดขึ้น
โดยนายโมโรตะ ยอมรับว่าได้นำกล่องบรรจุหน้ากากอนามัย 2,000 ชิ้น จากบริษัทของเขา เปิดประมูลผ่านเว็บไซต์ยาฮู เจแปน ถึง 89 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ จนถึง 6 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งหน้ากากอนามัยทั้งหมดนั้น บริษัทของเขาได้นำเข้ามาจากจีนเมือหลายปีก่อน ช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสเมอร์ส (MERS)
ขณะที่นายโมโรตะ อ้างว่าเขาขาดการพิจารณาในฐานะนักการเมือง และนำหน้ากากอนามัยดังกล่าวประมูลขายในช่วงการแพร่ระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 แต่ยืนยันความตั้งใจที่จะทำหน้าที่สมาชิกสภาท้องถิ่นต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ ภรรยาของเขาจะรับหน้าที่บริหารบริษัทแทนเขา และเขาจะบริจาคเงินที่ได้จากการประมูลขายหน้ากากอนามัยดังกล่าวทั้งหมด ส่วนเว็บไซต์ยาฮูเจแปน ก็ประกาศภายหลังเกิดกรณีนี้ขึ้น โดยเตรียมที่จะแบนการประมูลขายหน้ากากผ่านทางเว็บไซต์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 14 มีนาคมนี้