วันที่ 16 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน
ที่ประชุมเห็นชอบยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. โดยจะย้ายไปหยุดโอกาสอื่นเพื่อชดเชยให้ เพื่อไม่ให้มีการเดินทางในจังหวะเดียวกัน คณะแพทย์เกรงว่าจะมีคน เช่น จาก กทม. ติดโรคอย่างไม่รู้ตัวไม่แพร่เชื้อให้ครอบครัวจต่างจังหวัด หรือไปแบบปกติแล้วติดเชื้อจากต่างจังหวัดกลับมาที่กรุงเทพ และยังมีความเสี่ยงการติดโรคระหว่างเดินทาง คำสำคัญที่แพทย์บอกคือ ต้องช่วยกันลดความเสี่ยง ป้องกันบุตรหลานนำโควิดไปแพร่ให้กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ซึ่งเป็นแล้วแพร่ระบาดในต่างจังหวัดจะยุ่งยากกว่า กทม.มาก
ทั้งนี้สำหรับประเทศไทยยังไม่ประกาศวิกฤติเป็นระดับ 3 แต่อยู่ในระหว่างการเตรียมรับสถานการณ์ เมื่อต่างชาติเข้ามาจะมีการตรวจอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม ที่ยังไม่ประกาศเป็นประเทศติดโรค เพราะต้องดูสถานการณ์เป็นรายวัน สำหรับมาตรการป้องกันอื่นๆ ให้ปิด มหาวิทยาลัย, โรงเรียน, สถานกวดวิชา,สนามมวย, สนามกีฬาบางชนิด, โรงภาพยนตร์ (รอการพิจารณา) ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 18 มี.ค.
ในส่วนของร้านค้าหรือร้านอาหาร สามารถเปิดต่อไปได้ แต่ต้องมีมาตรการในการป้องกัน หรือ มาตรการรองรับ ได้แก่ ยิงเลเซอร์ตรวจอุณภูมิวัดไข้ มีหน้ากากอนามัยปิดปาก มีเจลเอาไว้ล้างมือ โดยภาครัฐจะมีผู้เข้าไปตรวจตรา หากไม่พบสิ่งเหล่านี้จะดำเนินการสั่งปิดเป็นราย ๆ ต่อไปโดยอาศัยพระราชบัญญัติมาตรา 35(1) ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีนั้นได้กำชับให้มีการให้ข้อมูลความรู้กับประชาชนให้ถี่ถ้วน
ทั้งนี้อาจจะมีการจัดเวลาการเข้างานไม่ให้เข้างานพร้อมกัน เพื่อลดจำนวนคนที่เดินทางมาตามรถสาธารณะ จัดเวลารับประทานอาหารเที่ยงไม่ให้พร้อมกัน เพื่อการจัดโต๊ะเก้าอี้นั่งให้ห่างกัน 1 เมตรได้ ทั้งนี้ทางด้านนายกรัฐมนตรีอาจมีวิธีการป้องกันโดยให้ทำงานที่บ้าน เพื่อลดการมาชุมนุม หรือมารวมตัวกันจำนวนมากในที่ทำงาน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก WorkpointNews