ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์ของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ยังมีชุมชนหนึ่งที่ต้องอาศัยกันอย่างแออัด ที่น้อยคนนักจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่เชื่อเถอะว่ายังมีชุมชนแบบนี้อยู่จริง
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ หยืด ฅนเพื่อชีวิต ได้เปิดเผยว่าตนไปพบเจอชุมชนแห่งนี้โดยบังเอิญ ที่มีวิถีชีวิตอยู่ใต้สะพานใหญ่กลางเมืองกรุง พวกเขาเรียกตัวเองว่า "ชุมชนคนใบ้" ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีทั้งหมด 65 ครัวเรือนโดยประมาณ อาศัยอยู่ริมถนนพระราม 9 ใต้สะพานข้ามคลองเล็กๆ ถูกจัดสรรให้เป็นทั้งเพิงพัก แบ่งเป็นห้องๆ และเป็นหลังๆ อยู่รวมกัน ประมาณ 180 คน แต่กว่า 130 คน เป็นผู้พิการทางการสื่อสาร (เป็นใบ้)
คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพขายเทียนแก้วหอม (ขายตามร้านอาหารกลางคืน) และลอตเตอรี่ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ทำให้แหล่งรายได้ถูกปิดลง นั่นหมายถึงพวกเขากว่าเกือบ 200 ชีวิต หมดหนทาง ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดระยะเวลา 2 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาพวกเขาไม่มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือจากภาคส่วนใดๆ เท่าที่ควร ด้วยที่ไม่มีสถานะเป็นชุมชน
มีเพียงการแจกของอุปโภค บริโภค 2 ครั้ง (ไม่เพียงพอแน่นอน) และข้าวกล่อง 4 มื้อ เป็นการประทังชีวิตให้ผ่านไปได้ บางคนมีอาชีพเก็บขยะ และเก็บแมวของเจ้าของที่เอามาทิ้ง มาชุบเลี้ยงตามมีตามเกิด กว่า 30 ตัว บางคนอยู่บ้านที่ใช้พื้นสะพานเป็นหลังคา และเศษไม้กับไวนิลเก่าๆ เป็นผนัง อาศัยแสงไฟจากสปอร์ตไลท์ใต้สะพานเป็นเชิงเทียน น้ำประปาก็ตักเอาจากท่อน้ำที่ไหลผ่าน
นั่นแสดงให้เห็นถึง ความดิ้นรน และความแตกต่างที่อยู่ในเมืองใหญ่ หวังว่าพวกเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนสู้ต่อไป ภายใต้สังคมและสถานการณ์ที่ทุกข์ทนนี้นะครับ เชื่อเหลือเกินว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: หยืด ฅนเพื่อชีวิต