เพจหมอฟัน ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็น โคเคน ที่เคยนำมาใช้เป็นยาชา ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหากย้อนไปเมื่อ ศตวรรษที่ 18
จากกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา คดีขับรถชนนายตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 จนทำให้ประชาชนสนใจและวิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมในสังคม กรณี ยาโคเคน จากกรณีการพบสารแปลกปลอมที่เกิดจากยาเสพติดในร่างกาย และเกี่ยวโยงว่าใช้ตอนทำฟัน จากปากคำของพนักงานสืบสวน
โดย ล่าสุดเพจ ห้องทำฟันหมายเลข 10 ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึง ยาโคเคน ใช้กับทางทันตกรรม ว่า เรื่องนี้จะไม่แปลกถ้าเป็นเมื่อ ศตวรรษที่ 18 !!! หมอฟันคนนั้นต้องนั่งไทม์แมชชีนมาแน่นอน
หนึ่งในยาที่ใช้มากที่สุดในทางทันตกรรม คือ ยาชา โดยยาชาตัวแรกที่นำมาใช้ทางการแพทย์คือโคเคน (cocaine) ในปี ค.ศ. 1859 (150 ปีมาแล้ว!!!) แต่ด้วยข้อเสียของโคเคนที่มีระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้น และมีฤทธิ์เสพติด จึงมีการพัฒนายาที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายโคเคน ชื่อ Procaine ขึ้นในปีค.ศ. 1904
แต่ในปีค.ศ. 1948 มีการนำยาชาที่มีสูตรโครงสร้างต่างไปจาก cocaine และ procaine ได้แก่ lidocaine และมียาชาที่พัฒนาต่อเนื่องตามมาได้แก่ mepivacaine (ค.ศ. 1965) prilocaine (ค.ศ. 1983; ยาชนิดนี้ไม่มีใช้ในประเทศไทย) และ articaine (ค.ศ. 2000)
โดยยาชาทั้งสามกลุ่มนี้มีสูตรโครงสร้างคนละแบบกับโคเคน รวมทั้งกระบวนการขับยาออกจากร่างกายก็ได้สารเคมีคนละกลุ่มกับโคเคน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก