"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถามอัยการ เคยมีคดีไหนที่คนจนหลบหนีและสั่งไม่ฟ้องแบบ "บอส อยู่วิทยา" และ "วิคตอเรียซีเครท" บ้าง เพราะความจนเป็นเหตุ สังคมไทยไม่เคยตั้งข้อกังขาต่ออัยการขนาดนี้มาก่อน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณี บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคมขณะนี้ ความว่า ความจนเป็นเหตุ สังคมไทยไม่เคยตั้งข้อกังขาต่ออัยการขนาดนี้มาก่อน เราจะใช้ชีวิตอยู่ในกรอบกฎหมายของประเทศไทยได้อย่างไร เมื่อแกนหลักสำคัญของกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถเป็นที่พึ่งใหักับสังคมไทยได้ต่อไป ต้นน้ำของความยุติธรรมเริ่มที่ตำรวจ กลางน้ำที่อัยการ และปลายน้ำที่คำตัดสินของศาล เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ใครทำผิดแล้วจะถูกสั่งฟ้อง หรือไม่ถูกสั่งฟ้องต่อศาล เพราะคนที่มีสถานะร่ำรวย ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมของระบบกฎหมาย และการใช้ดุลยพินิจของอัยการในการสั่งฟ้อง
วันนี้จึงต้องตั้งคำถามไปถึงอัยการสูงสุด ว่าท่านจะทำความกระจ่างให้สังคมเชื่อถือได้อย่างไร ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรที่อิสระ กฎหมายให้อำนาจท่านอย่างเต็มที่ จนไม่มีใครไปคานดุลอำนาจ ทำให้อำนาจทีท่านมีเป็นที่ฉงนฉงายของสังคม ว่าหน้าที่ส่งผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการศาล กลับกลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้กับคนรวยเสียมากกว่าคนจน
เพราะไม่ใช่นายบอสคนแรกที่ใช้วิธีฟอกขาวให้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่เจ้าตัวยังอยู่ระหว่างหนีคดี นายกำพล วิคตอเรีย ซีเครท ก็ใช้วิธีการเดียวกันเป๊ะ ลูกเมียโดนคดีหนีไปด้วยกัน ไม่เคยมาปรากฏตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ท้ายสุด อัยการกลับมีคำสั่งถอนหมายจับ กลับมาเดินปร๋ออยู่เมืองไทยไปเสียอย่างนั้น ส่วนตัวนายกำพล สถานะเหมือนนายบอส แค่รอเวลาให้เรื่องเงียบ แล้วรอเสียบถอนหมายจับกลับไทย
ดุลยพินิจของท่านต้องทำให้สังคมยอมรับ ไม่ใช่ทำกันเงียบ ๆ เพียงเพราะกฎหมายให้อำนาจท่านไว้ วันนี้องค์กรต่อต้านเครือข่ายค้ามนุษย์ไปทวงถามว่า มีเหตุผลกลใดถึงถอนหมายจับ ทั้งที่ตัวผู้ต้องหาหนีคดีไป ท่านคงตอบอีกว่า เพราะกฎหมายให้อำนาจท่านไว้ เป็นเหมือนกับนายบอสทุกประการ แต่สงสัยจริง ๆ ว่า มีคนจนที่ไหนเคยผ่านกระบวนการ “หนีไปก่อน แล้วถอนหมายจับ” บ้างหรือไม่? อยากได้ตัวอย่างสักคดี อย่าให้ชาวบ้านตาสีตาสาได้แต่ร้อง “อ๋อ.. คงไม่มี เพราะพวกกูมันจนนี่เอง”
ภาพและข้อมูลจาก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์