เจ้าของร้านกุ้งเผาสุพรรณ ผู้นำกระเป๋าเสื้อผ้า มอบให้กับญาติของนายจารุชาติ ยืนยัน รู้จักส่วนตัวจริง และนายจารุชาติเคยบ่นเรื่องใน คดีบอส อยู่วิทยา ที่เจ้าตัวเบื่อให้ฟัง
วันที่ 2 ส.ค. สำนักข่าว ช่องวัน รายงานว่า นายวัลลภ ใจชื้น อายุ 32 ปี หรือหมู เจ้าของร้านกุ้งเผาสุพรรณ ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่ร้านกุ้งเผาสุพรรณ ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากได้เป็นผู้นำกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้หม้อหุงข้าว และพัดลมไปมอบให้กับญาติของนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานคนสำคัญคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันที่บริเวณถนนห้วยแก้ว แยกฟ้าธานี เมื่อเวลา 01.50 น.ของวันที่ 30 ก.ค. 2563
นายวัลลภ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายจารุชาติเมื่อปลายเดือนธันวาคม ปี 2562 ก่อนปีใหม่นิดเดียว โดยรู้จักกันที่ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดนครสวรรค์ เพราะพูดคุยกันถูกคอ หลังจากนั้นก็นัดกินเหล้ากัน 3-4 ครั้ง กระทั่งคนงานที่ขับรถขนปลาขนกุ้งของตนเองลาออก ประกอบกับ นายจารุชาติ กำลังหางานทำพอดีจึงได้ชักชวนมาทำงานด้วยและให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเอง
ต่อมานายจารุชาติ บอกว่าจะหางานเสริมเพิ่ม ตนจึงได้พาไปสมัครกับนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีต ส.ว.จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อต้นเดือนมกราคม 2563 โดยเป็นคนขับรถบ้างดูแลสนามหญ้าบ้างซึ่งนายจารุชาตินั้นจะเป็นคนอัธยาศัยดี ทำงานได้ทุกอย่าง ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเขาเป็นพยานสำคัญในคดี ทายาทกระทิงแดง ซึ่งข่าวดังเมื่อประมาณสองอาทิตย์เขาก็ได้บอกว่า เขาเป็นพยานคดีนี้ และบังเอิญไปเห็นพอดี และน่าเบื่อที่ต้องไปๆ มาๆ ขึ้นโรงขึ้นศาล และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
นายวัลลภ บอกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุตนได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุพรรณบุรี และจะว่าจ้างให้นายจารุชาติขับรถไปให้แต่นายจารุชาติปฏิเสธ และอ้างว่านัดแฟนไว้ตนจึงขับรถไปคนเดียว มาทราบข่าวเช้าอีกวันว่าจารุชาติเสียชีวิตแล้ว ตนจึงเดินทางกลับมาที่ร้าน และเก็บข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดใส่กระเป๋า และไปมอบให้ญาติของนายจารุชาติที่หน้าห้องเก็บศพ และได้พูดคุยกันสักพัก ตนไม่ได้หนีกลับตามที่เป็นข่าว ตนไม่รู้จักญาติเขาเป็นการส่วนตัว โดยเมื่อเอาของให้ญาติแล้วจึงเดินทางกลับทันที
ตนก็ไม่เข้าใจทำไมถึงถูกโยงให้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในส่วนตัวแล้วตนมองการเสียชีวิตของจารุชาตินั้น เป็นอุบัติเหตุเพราะดูจากกล้องวงจรปิดแล้วภาพก็ชัดเจนอยู่แล้ว เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้มีการสั่งเก็บเหมือนที่สังคมสงสัยและคาใจอยู่ ส่วนกรณีที่ชื่อของนายจารุชาติ ไปอยู่ในประกันสังคมของบริษัทกฏหมายแห่งหนึ่งนั้น ตนไม่ทราบ เขาอาจสนิทสนมกับทนายเจ้าของบริษัทก็ได้ เพราะเคยรู้ว่าไปตัดหญ้าที่สำนักงานอยู่ อย่างไรก็ตามถือว่าตนได้ชี้แจงแล้วว่าเป็นคนนำของไปให้ครอบครัวโดยไม่มีอะไรแอบแฝง และไม่มีส่วนรู้เห็นไม่รู้จักกับครอบครัวกระทิงแดง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นเพียงพรรคพวกและนายจ้างของจารุชาติเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน