เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 63 ได้เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในเลบานอน โดยสาเหตุการระเบิดล่าสุดที่ทราบข้อมูลมาว่าเกิดจาก สารระเบิด "แอมโมเนียไนเตรท" (Ammonium nitrate) ที่ถูกเก็บอยู่ในโกดังหมายเลข 12 ของท่าเรือเบรุต และล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 100 ราย บาดเจ็บอีก 4,000 ราย
ฮามัด ฮัดซัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน แถลงการณ์ล่าสุดว่าเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 100 ราย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 4,000 ราย และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ขณะนี้ทีมกาชาดเลบานอนและทีมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกำลังค้นหาผู้มีชีวิตรอดอยู่ติดอยู่ใต้เศษซากปรักหักพัง
เมื่อวันอังคาร (4 ส.ค.) เกิดเหตุระเบิดใหญ่ถล่มท่าเรือเบรุต (Port of Beirut) ถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้อาคารทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือนและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ตลอดจนมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองเต็มไปด้วยเศษกระจกที่แตกกระจายเกลื่อน โดยปรากฏภาพชาวเลบานอนจำนวนมากก้มเก็บเศษกระจกจากพื้นถนนสายต่างๆ ของเมืองหลวง นอกจากนี้ร้านค้าส่วนใหญ่ในพื้นที่ตัวเมืองเบรุตที่อยู่ใกล้กับท่าเรือยังถูกทำลายเสียหาย
ข้อมูลเบื้องต้นเผยว่าแอมโมเนียมไนเตรตที่ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าแห่งหนึ่งของท่าเรือเบรุตนานถึง 6 ปีนั้น อาจเป็นสาเหตุของการระเบิดครั้งใหญ่นี้
“หน่วยงานศุลกากรต่างๆ จะต้องถูกตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังการกักเก็บสารเคมีดังกล่าวที่ท่าเรือเบรุต” โมฮัมหมัด ฟาห์มี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของเลบานอน กล่าว ด้านคณะรัฐมนตรีเลบานอนกำลังประชุมหารือเพื่อประกาศมาตรการใหม่ในการรับมือวิกฤตในขณะนี้ พร้อมทั้งพิจารณาข้อเสนอของสภาป้องกันสูงสุด (Higher Defense Council)
เมื่อวันอังคาร สภาฯ ประกาศให้เบรุตเป็นพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งกระตุ้นให้คณะรัฐมนตรีเลบานอนประกาศภาวะฉุกเฉินในเบรุตนาน 2 สัปดาห์
นอกจากนั้นยังเสนอให้มีการจัดที่พักในโรงเรียนต่างๆ สำหรับครอบครัวที่บ้านเรือนพังเสียหาย รวมถึงนำเข้ากระจกและควบคุมราคาวัสดุทุกชนิดที่ใช้สำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนที่พังเสียหาย จนถึงขณะนี้ หลายประเทศได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและความเห็นอกเห็นใจมายังเลบานอนต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนี้ นอกเหนือจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจ
ขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก
ขอบคุณภาพประกอบจาก อีจัน