จากกรณี นางกฤติกา ฤทธิขันธ์ อายุ 34 ปี ชาว ต.โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ประสบปัญหากินอาหารอะไรก็ไม่รู้รสชาติใดๆ ลิ้นชา ต้องเข้าพบแพทย์เฉพาะทางโดยตลอด จากการที่ เมื่อ 5 ปีที่แล้วเข้ารับผ่าตัดรักษาอาการฟันคุด และลืมหัวกรอฟันทิ้งไว้ ล่าสุด ทันตแพทยสภา ออกมาชี้แจงแล้ว
นางกฤติกา กล่าวว่า "ในช่วง 5 ปี ที่ รพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.นราธิวาส ทำการผ่าตัดรักษาอาการฟันคุด และลืมหัวกรอฟันทิ้งไว้ ก็มีการร้องเรียนไปแล้วหลายหน่วยงานเรื่องก็เงียบ จนกระทั่งย้ายกลับมาที่มุกดาหารตามสามี ก็เข้าสู่การตรวจร่างกายอีกครั้งเพราะทนต่ออาการไม่ไหว จนกระทั่งพบว่ามีหัวกรอฟันหักติดในเหงือก และทีมแพทย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มข.ได้ทำการผ่าตัดรักษาจนแล้วเสร็จ เมื่อปี 2562 จากนั้นก็ได้ร้องเรียนไปยัง สคบ. ตามระบบอย่างถูกต้อง จนมีการสอบสวน และในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่าสำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส ก็ไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือหรือรับผิดชอบใดๆ อ้างแต่กฎระเบียบและวิธีการทางการแพทย์มาตลอด มองว่าเราเป็นชาวบ้านจะทำอะไรกับประชาชนก็ได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้ร่างกายก็อยู่ในสภาพที่ไม่ไหว คล้ายกับคนอัลไซเมอร์ อารมณ์แปรปรวน ระบบประสาทเสียหาย ลิ้นชา ระบบรับรสก็ไม่มี ต้องเทียวไปแต่ รพ. เพื่อพบแพทย์ตลอด ครอบครัวจึงได้หารือกันในการทวงสิทธิ์อันชอบธรรมที่ควรได้รับจากการกระทำที่ผิดพลาดของระบบสาธารณสุขเมืองไทยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"
ล่าสุด Thai Dental Council ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงแล้วว่า "ทันตแพทย์ที่ทำการผ่าฟันคุดให้ ไม่ได้ลืมหัวกรอฟันไว้ หากเป็นเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างทำการรักษา ทำให้หัวกรอฟันหักค้างอยู่บริเวณนั้น ทั้งนี้ทันตแพทย์ท่านนั้นได้แจ้งผู้ป่วยให้รับทราบแล้วว่า มีหัวกรอฟันหักค้างอยู่และไม่สามารถนำออกมาได้ภายในวันนั้น โดยหัวกรอที่หักค้างนี้ เป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว หากไม่มีอาการใดภายหลัง สามารถปล่อยไว้ได้
ส่วนอาการชาภายหลังการผ่าฟันคุด อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่มีเครื่องมือหัก โดยอาการชาดังกล่าว เกิดจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงบริเวณฟัน แก้ม ลิ้น และริมฝีปากเกิดอาการบาดเจ็บ จากแรงกด หรือ แรงกระทบกระเทือนจากการผ่าตัดในช่องปาก ซึ่งสามารถพบได้ในการผ่าฟันคุดในตำแหน่งที่อยู่ลึกมากหรือการผ่าตัดกระดูกขากรรไกรและใบหน้า แต่อาการชาดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการยิ้ม การพูด ไม่ได้ทำให้หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว หรือการได้ยินลดลงแต่อย่างใด โดยอาการชาจะค่อยๆบรรเทาทุเลาลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ทำฟันมีขนาดเล็กมีโอกาสหักได้ หากผู้ป่วยท่านใดพบเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถปรึกษาทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเพราะมีเครื่องมือที่ทันสมัยสามารถเห็นสิ่งแปลกปลอมได้ชัดเจนมากกว่า สำหรับกรณีนี้ หัวกรอที่หักค้างอยู่ ได้นำออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยคณะอาจารย์จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น"
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก