จากกรณี นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้า จ.ลพบุรี จนเป็นข่าวดังสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม
ล่าสุด วันที่ 27 ส.ค. เฟซบุ๊ก อีจัน รายงานว่า วันนี้ 27 ส.ค. 2563 เวลาประมาณ 11.00 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา โดยมีคำพิพากษาประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ หรือนายประสิทธิ์ชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปีอดีต ผอ.รร.ประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การชิงทรัพย์และหลบหนี, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ อื่นๆ รวม 9 ข้อหา หลังก่อเหตุชิงทองลพบุรีคร่า 3 ชีวิต เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจน ทำให้เชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดี ข้ออ้างที่จำเลยให้การต่อศาลว่าเป็นความคิดชั่ววูบ เพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก รับฟังไม่ขึ้นเนื่องจากมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด
สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิต จำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่ นายธีระฉัตร ผู้เสียหายที่หนึ่ง รปภ. ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดน ด.ช.ภาณุวิชญ์ จนเสียชีวิต ศาลถือว่าเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย
ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบาเพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุมประกอบกับ มีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัวและการให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐาน หรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ก็สามารถนำสืบจนทราบได้ และคำให้การไม่มีการให้ประโยชน์ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุให้พิจารณาบรรเทาโทษ ทั้งนี้คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามต่อสังคม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษตามกฏหมาย คำขอของจำเลยฟังไม่ขึ้น
จำเลยมีความผิดตามฟ้อง พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต และปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียทุกคน รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อีจัน