จากกรณี ชาวเน็ต รายหนึ่งออกมาโพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่า ภรรยาของตัวเองนั้นถูกรุมโทรม และถูกถ่ายคลิปข่มขู่ จนเป็นประเด็นดังให้พูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์
ล่าสุด สำนักข่าว อีจัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังเกิดประเด็น ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้โพสต์เข้าแจ้งความ โดยเขาสัญญาว่าจะพาแฟนสาวมาแจ้งความ ที่ สภ.เมืองพัทยา เวลา 18.00 น แต่สุดท้ายเขากลับบ่ายเบี่ยง เปลี่ยนสถานที่นัดพบ จนเจ้าหน้าที่ต้องตามไปพบตามสถานที่นัดไว้ แต่เขากลับไม่มา ก่อนที่เขาจะลบโพสต์ดังกล่าวออกไป และปิดมือถือของตัวเอง
เจ้าหน้าที่จึงไปตามตัวถึงบ้านพักของผู้โพสต์ พบผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงตัวเองว่าเป็นญาติคนโพสต์ ออกมาเปิดเผยว่า ผู้โพสต์นั้นมีอาการทางประสาท และต้องกินยารักษาตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนต่อไปว่าป่วยทางจิตจริงหรือไม่ และจะพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมาย
ด้านเพื่อนแฟนสาว ของผู้โพสต์ ออกมาเปิดเผยว่า โพสต์ของผู้โพสต์นั้นไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องจริง ผู้โพสต์เป็นคนลงไม้ลงมือทำแฟนสาวจนได้รับบาดเจ็บเอง ผู้โพสต์ติดยาเสพติดจนต้องรักษาอาการทางจิต ที่ผ่านมาเคยขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่รับแจ้ง เพราะผู้โพสต์เป็นคนมีอาการทางจิต
ในเวลาต่อมา คุณแม่ วัย 43 ปี ได้พาตัวลูกชาย วัย 27 ปี เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ลูกชายที่เป็นช่างสัก มีอาการทางจิต และอยู่ระหว่างการรักษาตัว ต้องกินยาตลอดเวลา แต่ระยะหลังลูกชายได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น จึงไม่ได้กินยา ทำให้อาการผิดปกติกำเริบขึ้น คิดไปเอง จนออกมาโพสต์เรื่องไม่จริงลงบนเฟซบุ๊ก ตนเองกับลูกชายรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และขอโทษสังคมที่สร้างความวุ่นวาย จากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หลังจากนี้จะดูแลลูกชายให้ใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อีจัน