ตั้งแต่ออกพรรษามานี้ วัดในหลายพื้นที่ต่างก็มีการออกมาตั้งกองผ้าป่า เพื่อหาเงินเข้ามาพัฒนาวัดของตัวเอง ซึ่งจะได้จำนวนมากหรือน้อยนั้นก็แล้วแต่พื้นที่ และกำลังทรัพย์ของชาวบ้าน แต่คราวนี้มีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น เนื่องจากมีชายเมาเหล้า เข้าไปหยิบเงินที่ต้นผ้าป่าอ้างว่า ตนได้หันไปขออนุญาตจากพระพุทธรูปแล้ว และทางพระพุทธรูป ก็ได้พยักหน้าว่าอนุญาต
โดยสำนักข่าว อีจัน ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 63 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการวัดหลวงราชาวาส เขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 15.00 น. มีคนร้ายย่องเข้าไปทุบตู้บริจาคและขโมยเงินจากไม้เสียบกองผ้าป่า ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาวัดไป ซึ่งขณะนั้น เป็นช่วงที่วัดอยู่ระหว่างจัดงานบวชอยู่ จึงมีไม่ใครเห็น
แต่กล้องวงจรปิดอยู่ภายในศาลาวัดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ทางวัดจึงนำภาพดังกล่าว มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี โดยภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน และมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับ นายน้อย เป็นอย่างมาก
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี จึงทำการสืบสวนติดตามจนพบตัว นายน้อย ในขณะที่กำลังเดินอยู่บริเวณถนนแถวหน้าบ้านตัวเอง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็พยายามจะขับมอเตอร์ไซค์หนี และเลี่ยงการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสุดท้ายก็สามารถเชิญตัว นายน้อย มาที่ สภ. เพื่อทำการสืบสวนสอบสวน พร้อมกับให้ทางกรรมการวัดดูตัว เพื่อชี้ชัดว่าบุคคลในกล้องวงจรปิด จริงหรือไม่
ท้ายสุด นายน้อย ยอมรับว่า คือคนที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดและขโมยเงินจากวัดออกไปจริง ซึ่งหลังจากที่ขอค้นตัว พบว่ามีเงินสดอยู่ในตัวทั้งสิ้น 420 บาท โดยนายน้อย อ้างว่าเป็นเงินที่ขโมยมาจากวัดทั้งหมด และยังไม่ได้ใช้ พร้อมทั้ง สารภาพว่าเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้น เกิดจากอาการมึนเมา เพราะดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ พอเกิดอาการเมาไม่ได้สติ จึงเข้าไปลักเงินในตู้บริจาคและดึงเงินจากไม้ผ้าป่าที่เสียบไว้ แต่ก่อนที่จะหยิบเงินมานั้น ตนเองก็ได้ขออนุญาตพระพุทธรูปปั่น ที่อยู่ด้านหน้าแล้ว ซึ่งท่านก็พยักหน้าอนุญาตให้ ตนจึงหยิบเงินนั้นมา
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมด เพื่อตั้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” เพื่อดำเนินคดีกับ นายน้อย ก่อนดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อีจัน