เปิด เงื่อนไข ทำ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เมื่อผู้ถือบัตรตอนนี้กลายเป็นผู้โชคดี ที่จะได้รับเงิน 8,000 บาท ในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ จากมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด - 19
จากกรณี กระทรวงการคลัง เตรียมนำมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ของโควิด - 19 โครงการ "เราชนะ" เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ลงมติ "เห็นชอบ" โครงการ เพื่อมอบเงินเยียวยา จำนวน 7,000 บาท 2 เดือน เดือนละ 3,500 บาท แก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน
ล่าสุด กลุ่มที่จะได้รับเงินเยียวยา อย่างแน่นอน โดยไม่ต้องลงทะเบียน คือ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน 14 ล้านคน
ด้วยเหตุผลนี้ ผู้ที่ตอนนี้ มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน อยู่กับตัว ช่วงเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ที่มีบัตรจะได้รับเงินเยียวทั้งหมดเดือนละ 4,000 จำนวน 2 เดือน เเบ่งเป็น 3,500 บาท จากโครงการ "เราชนะ" และอีก 500 บาท จากมาตรการ "เพิ่มกำลังซื้อ" ให้กับผู้ที่มีบัตร ช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2564 รวมทั้งหมดแล้ว 2 เดือน ช่วงเดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ 2564 จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลรวม 8,000 บาท
เงื่อนไขการสมัคร บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ มีดังนี้
1. ต้องเป็นคนสัญชาติไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป
2. ต้องว่างงาน มีรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
3. ต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคา, สลากออมสิน,สลากธ.ก.ส.,พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้
4. ถ้ามีทรัพย์สินจำนวนดังกล่าว ต้องมีจำนวนรวมไม่เกิน 100,000 บาทเท่านั้น
5. ต้องนำรายได้ต่อครัวเรือน นำมาประกอบการพิจารณา
6. หากผู้สมัครมีรถยนต์ จะถูกนำมาพิจารณาเงื่อนไข หากพบว่ามีมากถึง 2 - 3 คัน ถือไม่ผ่านเงื่อนไขการสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนรอบใหม่
7. ผู้ที่บัตรหรือถือบัตรเครดิตอยู่ จะถูกนำมาพิจารณาเงื่อนไข เพราะตามเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุไว้ว่า ผู้ที่จะมีบัตรเครดิตได้ต้องมีรายได้ขั้นต่ำไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่า รายได้ต่อปีมีมากกว่า 100,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ แม้วันที่ ที่แน่นอน ของการเปิดให้ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ นั้นยังไม่ถูกไม่ประกาศออกอย่างเป็นทางการ แต่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันแล้วว่า จะเปิดรอบให้ลงทะเบียนรอบใหม่ ตอนต้นปี 2564 อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง,brighttv