กรมบัญชีกลาง ออกมาประกาศชี้แจง หลัง นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี และลูกสาว ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน
จากกรณี นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี และ นางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาว ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังกรมบัญชีกลางออกมาเรียกเก็บเงินเบี้ยสูงอายุคืน เนื่องจากพบว่านางบวนได้รับเงินบำนาญพิเศษ 5,000 บาทต่อเดือน หลังลูกชายเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544
ล่าสุด กรมบัญชีกลาง ได้ออกมาชี้แจง กรณีเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน ผ่านเฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department ว่า
"นางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับผู้สูงอายุรายนางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวบ้านใน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ แจ้งว่ากรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชาย เป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด นั้น
“กรมบัญชีกลาง ขอเรียนชี้แจงว่า เนื่องจากหลักเกณฑ์ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ซึ่งแต่เดิม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจริญสุข จ.บุรีรัมย์ เป็นผู้จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้แก่นางบวน โล่สุวรรณ ตลอดมา ต่อมาในปี 2563 ได้มีการดำเนินการโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-social welfare) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจ่ายตรงเบี้ยชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ ระหว่างกรมบัญชีกลางและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ดังนั้น เมื่อ อบต. มีหนังสือสอบถามกรมบัญชีกลางให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลผู้รับบำนาญ ว่าผู้สูงอายุรายดังกล่าวเป็นผู้รับบำนาญหรือไม่ กรมบัญชีกลาง ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นผู้รับบำนาญพิเศษ พร้อมทั้งได้มีหนังสือตอบ อบต. แล้ว
อนึ่ง ในกรณีที่ได้รับเงินเบี้ยสูงอายุไปโดยไม่มีสิทธิ อบต. จะเรียกคืนเงินตามขั้นตอนและวิธีการที่ อบต. กำหนด ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรมบัญชีกลางที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ดี กรมบัญชีกลางมีความห่วงใย และเข้าใจสถานการณ์ ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายคลังจังหวัดบุรีรัมย์ ประสาน อบต. เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุรายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฐานข้อมูลด้านสวัสดิการสังคมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้มีความครบถ้วนในทุกมิติ และอำนวยความสะดวกด้านการเบิกจ่ายตรง ให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวันและเวลาราชการ ตลอดจนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม และบำเหน็จบำนาญ ได้ทาง CGD Application โดยดาวน์โหลดฟรีผ่านทาง Play Store สำหรับ Android หรือ App store สำหรับ iOS " โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว #กรมบัญชีกลางชี้แจง #บำเหน็จบำนาญ #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อีจัน,กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department