วันนี้ (6ก.พ. 64) ทางเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกมาประกาศแนวทางในการรับมือกับช้างที่ตั้งด่านลอย กินพืชผลท้ายรถที่สัญจรไปมา โดยระบุข้อความว่า "หยุดพฤติกรรมเลียนแบบ!!! เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ประจำจุดจัดการจราจรแนะนำผู้ใช้รถ หลังมีช้างป่าตั้งด่านดักกินพืชผลทางการเกษตรท้ายรถบรรทุก
กรณีช้างป่าออกมาบนถนนในช่วงที่มีรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรสัญจรมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ย้อนไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว หลายท่านคุ้นชื่อ ”พี่ด้วน ด่านลอย” ช้างป่าสีดอตัวแรกที่เรียนรู้และปรับตัว จากกลิ่น เสียงและแรงสั่นสะเทือนของรถขนาดใหญ่ รวมถึงเศษพืชเกษตรกรรมที่หล่นร่วงบนท้องถนน ทำให้พี่ด้วนต้องออกมาตั้งด่าน เพื่อเรียกเก็บพื้ชผลในรถบรรทุก จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกมาควบคุมและให้คำแนะนำ รวมถึงกำหนดช่วงระยะเวลาในการใช้ถนนเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง
สำหรับช้างสีดอ ก็คือ ช้างตัวผู้ที่ไม่มีงา การต่อสู้เพื่อแย่งถิ่นอาศัยกับช้างป่ามีงาย่อมเสียเปรียบ การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าจึงเป็นทางออกหนึ่งในการอยู่รอด อย่างไรก็ตามธรรมชาติก็ให้ช้างสีดอมีโหนกหัวที่ใหญ่ กระโหลกใหญ่ มันสมองใหญ่ รอยหยักเยอะ คิดและฉลาดกว่าช้างมีงา การคิดค้นหาทางออกในการเอาตัวรอดเช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่งั้น ช้างสีดอคงสูญพันธุ์ไปแล้ว
ต่อมาพฤติกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ช้างสีดอเท่านั้นกับพบว่ามีช้างป่าตัวอื่นเลียนแบบและทำตามเช่นกัน โดยช้างป่าจะออกมาบนถนน เปิดทางให้รถวิ่งเลนเดียว พอรถจะวิ่งผ่าน ก็เดินเข้ามาขวางหน้ารถ ก่อนค่อย ๆ เดินเลียบไปข้างรถ ดึงอ้อยและมันสำปะหลังออกมากินอย่างสบายใจ บริเวณดังกล่าวกลายเป็นด่านตรวจไปโดยปริยาย
เมื่อเจ้าด้วนได้ล้มลง ผลการชันสูตรของทีมสัตวแพทย์ พบบาดแผลมากมายจากการต่อสู้จากช้างมีงา เพื่อตัดคู่แข่งในการครองพื้นที่ตั้งด่านบนถนน พอต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ แต่ผลชันสูตรที่น่าสนใจน่าจะเป็นเรื่องสุขภาพของ "พี่ด้วนด่านลอย" หลังสัตวแพทย์ผ่าซาก คาดว่าพี่ด้วนมีสารพิษตกค้างในร่างกายจำนวนมาก อาจเนื่องมาจาดการกินพืชที่มีการตกค้างของสารเคมีต่อเนื่อง เป็นเวลานาน หรือไม่ก็พิษในพืช ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุล เมื่อร่างกายไม่แข็งแรงก็เสียเปรียบช้างป่าตัวอื่น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบช้างป่า 4 ตัว กระจายตามจุดต่างๆ บางจุดก็เดินมารุมแย่งกัน ต่อสู้กัน เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนที่ประจำด่านทั้ง 2 ด้าน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วในการจัดจราจรและให้ความปลอดภัยเมื่อเจอช้างดักบนถนน หลายคันหยุดให้ช้างรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ผู้ขับขี่ขับรถไปหยุดข้างหน้า เมื่อสังเกตุว่าช้างเดินมาข้างรถเพื่อที่จะหยิบพืชในรถ ถ้าด้านหน้ารถถนนว่างก็ขับรถออกไปได้เลย โดยไม่ต้องกระชากตัวแรง แต่ถ้ามองกระจกหลังพบว่าช้างป่าตัวยังเหนี่ยวรถไว้ ก็อย่าพึ่งออกตัว รอจังหวะช้างผ่อนแรงดึง แล้วค่อย ๆ ขับผ่านไป
แต่อย่างไรก็ ตามในจุดที่มีช้างป่าออกมาบนถนน จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทุกท่านและยังเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันของคนกับช้างป่า
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช